Tag: lee jong suk

Big Mouth EP12 เดือดกับการประทะกันแบบนองเลือดกับอาชญากรชั่วร้ายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ตัว อิมยุนอา อย่างน่าตกใจ! ความเดิมตอนที่แล้ว (Big Mouth EP11) พัคชางโฮ (อีจงซอก) บีบให้บิ๊กเมาส์เฉลยตัวด้วยการมาพบและกลายเป็นหัวหน้าห้อง โนวัค (ยางฮยองอุค) ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา ส่วน จางฮเยจิน (ฮงจีฮี) ก็ถูก ฮันแจโฮ (อียูจุน) อดีตสามีของเธอตามมาฆ่าตายถึงบ้านพัก ด้าน ฮยอนจูฮี (อ๊กจายอน) ถูกเล่นงานลับหลังด้วยการถูกผสมยาในกาแฟจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และยังถูกสื่อโจมตีว่ามีสารเสพติดในเลือด นั่นเป็นผลกระทบที่เกิดจากการที่ นายกเทศมนตรีชเวโดฮา (คิมจูฮอน) ร่วมมือกับพัคชางโฮและโกมีโฮในการกระตุ้นบิ๊กเมาส์ จนภรรยาของเขาได้รับผลพวงไปด้วย มาถึง Big Mouth EP12 ออกอากาศวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2022 นายกชเวโดฮาเจ็บแค้นเคืองโกรธกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับภรรยา เขาฉวยโอกาสที่ทั้งพัคชางโฮ และ โกมีโฮ อยู่ในเรือนจำทั้งคู่ ด้วยการสั่งให้พัสดี กันซูชอล (คิมดงวอน) สังหารทั้งคู่ทิ้งซะให้มันจบ ๆ ซึ่งซูชอลเองก็โกรธแค้นพัคชางโฮเป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่ดูแคลนและปฏิบัติตัวไม่ดีกับเขาในฐานะพัสดีผู้คุมเรือนจำ ราชาองค์ใหม่แห่งเรือนจำกูชอน ซูชอล ใช้วิธีปล่อยให้นักโทษก่อหวอด และปิดกล้องวงจรปิดทั้งหมด จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องคนสนิทจัดการพัคชางโฮตอนชุลมุนท่ามกลางการจราจล โดยจัดการให้ดับไฟทั้งเรือนจำจนมืดมิด ในภาพที่ปล่อยออกมานั้น โกมีโฮ อยู่กับ นักโทษประหารชีวิต ทักกวังยอน...

บิ๊กเมาส์คือใคร? พันธมิตรใหม่ที่อันตรายที่สุดเกิดขึ้นแล้วในเรือนจำระหว่าง อีจงซอก กับ คิมดงวอน ลางสังหรณ์บอก อีจงซอก ผู้นำใหม่ ใช่ว่าจะดีกว่า ผู้นำเก่า ความเดิมตอนที่แล้ว พัคชางโฮ (อีจงซอก) สังเกตเห็นและจับได้ทันทีว่า พัคยุนกับ (จองแจซอง) ซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็น Big Mouse แต่แท้จริงแล้วก็แค่ตัวปลอมมีสายจูง และคดียังพลิกยังถูกจับกุมตัวอีกด้วย อดีตพระราชาในคุกที่เหี้ยมโหด ทั้งรีดไถเงิน ทรมานและฆ่านักโทษอย่างโหดร้ายตกบัลลังก์ถูกปลดและเข้าสู่กระบวนการรับโทษในที่สุด นี่ถือเป็นการส่งคำเตือนกระตุ้นต่อมไปยัง Big Mouse ที่ยังคงปิดบังตัวตน แม้ว่าพัคชางโฮจะมอบโอกาสให้แล้วก็ตามที (นั่นๆๆ) มาถึง Big Mouth EP11 จากภาพจะเห็นได้ว่า บรรยากาศในเรือนจำกูชอนนั้นเปลี่ยนไป ความน่าสนใจแรกพุ่งเป้าไปที่ กันซูชอล (คิมดงวอน) อดีตเจ้าหน้าที่คุมเรือนจำที่นายกเทศมนตรีหนุนหลังขึ้นมาให้เป็นหัวหน้าผู้คุมเรือนจำคนใหม่ แน่ใจเหรอว่าผู้นำคนใหม่จะดีกว่าคนเก่า ไม่ต้องนั่งเดาก็คิดออกได้ว่า "ไม่มีทาง!!!!!!!!" คนเก่าว่าเลวร้ายแล้ว แต่คนใหม่นั้นคือขั้นกว่า (อันนี้ก็ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้) เขาทำให้พัคชางโฮถึงกับต้องขมวดคิ้ว ด้วยการเรียกรวมพลเหล่านักโทษเข้ามาในหอประชุม และเรียกนักโทษขึ้นมาชำระความเรียงหน้ากระดานบนเวทีทีละคนและยังทำเปิดเผยความลับบางอย่างของแต่ละคนบนนั้น ถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าหนึ่งในนั้นก็คือ อดีตหัวหน้าผู้คุมเรือนจำที่ตอนนี้สุดแสนจะทรุดโทรม มีแผลเต็มตัว ผอมแห้งกระแหร่ง จนทำให้ฉุกคิดได้เลยว่า สถานการณ์ของเขาได้เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเข้าให้แล้ว นอกจากนักโทษบนเวทีแล้ว ทุกคนภายในหอประชุมก็ได้รับผลกระทบไปด้วยทั้งหมด พัคชางโฮ ที่ยืนมองทุกการกระทำอยู่ด้านล่างแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ชอบการกระทำที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนักโทษแบบนี้ ความเลวร้ายไม่ได้ลดลงเลยแม้จะเปลี่ยนผู้นำใหม่แล้วก็ตาม ขณะที่พัคชางโฮจ้องมองสถานการณ์ปัจจุบันตรงหน้าด้วยดวงตาที่เย็นชา เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าที่ผิดปกติ ลางสังหรณ์บอกกับเขาว่า "กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว!!!"...

รีวิว Big Mouth เปิดตัวดีคว้าเรตติ้งไปถึง 6.2% เมื่อ อีจงซอก ผู้มีฉายาว่า Big Mouth ถูกใส่ร้ายว่าเป็นอาชญกรตัวพ่อฉายา Big Mouse ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Big Mouth ถึงเปิดตัวอย่างสนุก น่าติดตาม เพราะนี่เป็นฝีมือการกำกับของพีดี โอชุงฮวัน  ที่เคยกำกับซีรีส์ The Girl Who See Smells, Doctors, While You Were Sleeping, Hotel Del Luna และ Start Up โดยเพื่อความน่าติดตามตั้งแต่ต้น ผู้กำกับจึงได้เลือกหยิบเอาเหตุการณ์ในท้าย EP1 ขึ้นมาในตอนต้น และเปิดเผยความร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นให้ผู้ชมได้ติดตามแบบนั่งไม่ติด เล่าต้นเรื่อง Big Mouth เพิ่มอรรถรสในการดู Big Mouth เล่าเรื่องราวของ พัคชางโฮ (รับบทโดย อีจงซอก) ทนายความชั้น 3 ที่มีอัตราชนะคดีความแค่ 10% เรียกได้ว่า ถ้าว่าความไป 100 คดี เขาก็แพ้ไปซะ 90...

รายละเอียดซีรีส์ เรื่องย่อ Big Mouth เรื่องย่อ Big Mouth แปลและเรียบเรียงโดย KZabs ชื่อเรื่อง: Big Mouth ชื่อเรื่องอื่นๆ: Big Mouse ชื่อเรื่องภาษาเกาหลี: 빅마우스 แนว: Hardboiled, นัวร์, กฎหมาย เรตผู้ชม: 15+ บริษัทผู้ผลิต: A Story | Studio Dragon | A MAN PROJECT ผู้กำกับ: โอชุงฮวาน นักเขียนบท: ฮารัม จำนวนตอน: 16 ตอน วันออกอากาศ: ทุกวันศุกร์-เสาร์ เวลา: 21.50 น. ตามเวลาเกาหลี ช่วงเวลาออกอากาศ: วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม - 17 กันยายน 2022 ช่อง/สตรีม: KBS ซับไทยถูกลิขสิทธิ์: Disney+ Hotstar ออกอากาศต่อจาก:...

ความน่าสนใจของซีรีส์ Romance is a Bonus Book ที่ออกอากาศทางช่อง tvN เริ่มต้นตั้งแต่ที่ อีจงซอก ตอบรับเล่น ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ อีนายอง ตกลงตอบรับอีกด้วย ความน่าดูจึงยิ่งบังเกิด KZabs จึงได้ประมวลและรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจของสองพระนางคนละวัยคู่นี้มาฝากกันค่ะ 1. ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของ อีจงซอก ที่รับเล่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ 2. ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายของ อีจงซอก ก่อนที่เขาจะต้องเข้ากรมทหารรับใช้ชาติ ในวัย 31 ปี 3. อีนายอง ยอมตกลงกลับมาเล่นละครอีกครั้งหลังจากที่หายไปเล่นภาพยนตร์และใช้ชีวิตครอบครัว นานถึง 9 ปี 4. อีนายอง เป็นภรรยาของ วอนบิน แต่งงานกันเมื่อ 30 พ.ค.2015 และมีพยานรักเป็นลูกชายด้วยกัน 1 คน 5. อีจงซอก ยอมรับว่าเป็นแฟนคลับของอีนายองอย่างเต็มปาก จากการที่เขาเผยว่า อีนายอง เป็นผู้หญิงในสเปก ซ้ำยังเคยย่องไปงาน Movie premier ของเธอมาแล้วอีกด้วย ที่สำคัญยืนยันความติ่งของเขาด้วยการเผยว่าเคยฝากให้เพื่อนสนิทอย่าง "คิมอูบิน" ขอลายเซ็น อีนายอง ให้เมื่อตอนอูบินถ่ายทำโฆษณาร่วมกับเธอด้วย คิมอูบินและอีนายอง โฆษณากาแฟ Maxim ร่วมกัน  6. พระนางคู่นี้ มีอายุห่างกันถึง 10 ปีพอดี ...

ชื่อเรื่อง: Romance is a Bonus Book (Romance Supplement / Romance Is a Supplement / How to Publish Love) ชื่อเรื่องภาษาเกาหลี: 로맨스는 별책부록  แนวเรื่อง: โรแมนติกคอมเมดี้ นักเขียนบท: จอนฮยอนจอง (I Need Romance 3 seasons) ผู้กำกับ: อีจองฮโย (A Good Wife/ Life on Mars) จำนวนตอน: 16 ตอน วันออกอากาศ: ทุกเสาร์-อาทิตย์ ช่อง: tvN  เวลา: 21.00 น. (เวลาเกาหลี) 19.00 น. (เวลาไทย) ออกอากาศครั้งแรก: วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2019 นักแสดงนำ: Lee Jong-Suk แสดงเป็น Cha Eun-ho วัย 32 ปี ชาอึนโฮ นักเขียนอัจฉริยะที่ได้เป็นบรรณาธิการอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทสำนักพิมพ์ ในด้านงานการ เขาเป็นคนสุดเพอร์เฟค สมบูรณ์แบบและเด็ดเดี่ยว แต่ในด้านการจัดการกับคน เขาเป็นคนที่อบอุ่นและมีเหตุมีผล Lee Na-Young แสดงเป็น Kang...

ในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. 2018 อีจงซอก และทีมงานอีก 13 คน ได้ถูกควบคุมตัวอยู่ในสนามบินจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้งหมดถูกยึดพาสปอร์ตไว้ด้วยสาเหตุของผู้จัดงานแฟนมิตติ้งรายงานผลกำไรกับเจ้าหน้าที่น้อยกว่าความเป็นจริง จนในวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.หลังถูกกักตัวไว้นานข้ามวัน อีจงซอก ได้ถ่ายรูปภายในสนามบินและโพสต์ลงบน Instagram ส่วนตัว พร้อมข้อความบอกแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น และภายหลังได้ลบรูปนี้ทิ้ง โดยต้นสังกัด ของเขาได้ออกมายืนยันว่าเป็นความจริงที่ อีจงซอก และทีมงานถูกกักตัวไว้จริง หลังจากนั้นเริ่มมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ สำนักข่าวของ CNN Indonesia ได้รายงานข่าวว่า อีจงซอกเดินทางเข้าประเทศด้วยวีซ่าผิดประเภทและยังไม่มีใบอนุญาตทำงานระยะสั้นเข้ามาด้วย แต่เขาและทีมงานจะได้เดินทางกลับประเทศเกาหลีใต้ในคืนวันจันทร์ที่ 5 พ.ย. ซึ่งเรื่องทั้งหมดทางผู้จัดหรือโปรโมเตอร์ท้องถิ่นอย่าง Yes24 เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว พร้อมด้วยต้นสังกัด A-Man Project ได้ออกแถลงการณ์เหตุการณ์ดังกล่าว และแจ้งว่าจะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นด้วย อ่านรายละเอียดแถลงการณ์: ต้นสังกัด "อีจงซอก" ออกแถลงการณ์เตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้จัดแฟนมิตติ้งในอินโดนีเซีย และในที่สุด หลังจากการช่วยเหลือของสถานทูตอินโดนีเซียตามที่ต้นสังกัดแถลง อีจงซอก และทีมงานก็ได้รับพาสปอร์ตคืนและได้รับสิทธิ์ให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อกลับไปยังเกาหลีใต้ ประเทศบ้านเกิดแล้ว ซึ่งในขาออกนอกประเทศนั้น ได้มีแฟนคลับชาวอินโดนีเซียส่วนหนึ่งไปส่งอีจงซอกที่สนามบินและถ่ายคลิปเขาขณะเดินเข้าไปในสนามบินและเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ด้วย ในคลิปจะเห็นได้ว่า อีจงซอก มาพร้อมทีมงาน เขาสวมสเวตเตอร์สีดำ กางเกงดำ รองเท้าดำ สวมหมวกดำ และใส่ mask ปิดปาก เดินก้มหน้าเข้าสนามบินและไม่ได้หันมามองแฟนๆ โดยแฟนคลับได้พยายามตะโกนเป็นภาษาเกาหลีว่า "มีอันแฮโย โอปป้า"...

เช้าวันที่ 6 พ.ย.2018 มีรายงานจากเว็บไซต์ในเกาหลีใต้พร้อมภาพ อีจงซอก ขณะเดินออกจากสนามบิน มีรายงานว่า อีจงซอก และทีมงานเดินทางถึงประเทศเกาหลีใต้ ผ่านทางสนามบินนานาชาติอินชอนแล้วอย่างปลอดภัย หลังจากเดินทางไปร่วมงานแฟนมิตติ้งตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา และมีงานแฟนมิตติ้งในวันเสาร์ที่ 3 พ.ย. โดยมีกำหนดเดินทางกลับเกาหลีใต้ในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. แต่ อีจงซอก และทีมงานอีก 13 คน กลับถูกยึดพาสปอร์ตและถูกกักตัวไว้ที่สนามบินจาการ์ต้าแทน จนเมื่อล่วงเข้าวันจันทร์ที่ 5 พ.ย. อีจงซอก จึงได้ทำการโพสต์ภาพสนามบินจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย และกล่าวแก่ทุกคนว่าเขาและทีมงานถูกยึดพาสปอร์ตและถูกคุมตัวไว้ ในที่สุด เช้าวันอังคารที่ 6 พ.ย. อีจงซอกและทีมงานก็เดินทางถึงเกาหลีใต้โดยปลอดภัย หวังว่าแฟนๆ คงสบายใจได้แล้ว และเรื่องราวการที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ทางเราจะนำมานำเสนอต่อไป อีจงซอก กลับถึงบ้านเกิด พร้อมรอยยิ้ม แม้จะผ่านเรื่องเครียดมาหลายชั่วโมง ดีใจกับอีจงซอกด้วยจริงๆ ค่ะ :D อ้างอิงข่าว: คดีพลิก CNN อินโดฯ รายงานว่า “อีจงซอก และทีมงานทั้ง 13 ชีวิตจะถูกเนรเทศกลับเกาหลีใต้ภายในคืนนี้ (5 พ.ย.61)” อย่าลืมกดติดตาม KZabs ได้จากช่องทางต่างๆ ด้านล่างนี้นะคะ Facebook: @KZabsTalk :...

จากกรณีข่าว อีจงซอก และทีมงานถูกควบคุมตัวอยู่ในสนามบินจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย หลังเสร็จสิ้นงานแฟนมิตติ้ง 2018 LEE JONG SUK FANMEETING TOUR 'CRANK UP' ที่จัดขึ้นในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังจากเสร็จสิ้นงานแฟนมิตติ้ง อีจงซอก มีกำหนดเดินทางกลับประเทศเกาหลีใต้ในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. เนื่องจากมีตารางงานในการถ่ายทำละคร "Romance Supplement" ทางช่อง tvN ล่าสุด ทางสำนักข่าว CNN ประเทศอินโดนีเซียประจำกรุงจาการ์ต้า ได้รายงานข่าวว่า "นักแสดงหนุ่ม อีจงซอก ถูกตัดสินให้ถูกเนรเทศออกจากอินโดนีเซียในคืนวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.นี้ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง" โดยสำนักข่าวได้พูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจการทั่วไปของคณะกรรมการตรวจคนเข้าเมืองของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน นาย Teodorus Simarmata ผ่านทางโทรศัพท์ โดยเขาได้กล่าวว่า "นักแสดงอีจงซอกจะถูกเนรเทศกลับไปที่บ้านเกิดของเขาในคืนวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.นี้" "ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อีจงซอกและคนอื่น ๆ อีก 13 คนที่ถูกยึดพาสปอร์ตไว้ คืนนี้จะถูกเนรเทศกลับไปยังเกาหลีใต้" นี่คือข้อมูลของเขาบอกแก่ CNNIndonesia.com ผ่านทางโทรศัพท์ นอกจากนี้เขายังอธิบายด้วยว่า อีจงซอก เดินทางเข้ามายังอินโดนีเซียโดยใช้วีซ่าที่ไม่สอดคล้องกับกิจกรรมการจัดแฟนมิตติ้งของเขา โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) "ผู้ที่เดินทางมาถึงประเทศอินโดนีเซียโดยใช้วีซ่าแต่กลับทำกิจกรรมที่เป็นงานแฟนมีตติ้ง ดังนั้น เขาจำเป็นต้องมาพร้อมกับใบอนุญาตทำงานจากเจ้าหน้าที่ด้วย"...

ต้นสังกัดของอีจงซอกคอนเฟิร์มการถูกจับกุมไว้หลังงานแฟนมิตติ้งในกรุงจาการ์ต้า เนื่องจากปัญหาผู้จัดงานท้องถิ่น อีจงซอก และทีมงานของเขาได้ถูกคุมตัวอยู่ในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียโดยเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นหลังจากงานแฟนมิตติ้งเสร็จสิ้นลง เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2018 อีจงซอก ได้อัพโหลดภาพใน Instagram ส่วนตัว เป็นภาพในสนามบินกรุงจาการ์ต้าภาพหนึ่งและได้พูดคุยถึงเหตุว่าทำไมเขาถึงถูกคุมตัวไว้ที่นั่นหลังแฟนมิตติ้ง เขาเผยว่า "ผมจบงานมิตติ้งลงด้วยหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณ แต่ทีมงานทั้งหมดของผมและผมยังคงถูกคุมตัวอยู่ในจาการ์ต้า ผมคิดว่าพวกเราถูกควบคุมตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วครับ..." เขาอธิบายต่อว่า "ผู้จัดงานในจาการ์ต้า บริษัท Yes24 Ent Indonesia ได้รายงานผลกำไรจากงานแฟนมิตติ้งน้อยกว่าความเป็นจริงแก่เจ้าหน้าที่ดูแลภาษีท้องถิ่น แม้ว่าทีมงานของผมและตัวผมเองจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่พวกเขาก็ยึดพาสปอร์ตของพวกเราไว้และไม่ยอมส่งคืนแก่พวกเรา ผมหวังว่าบริษัทผู้จัดงาน yes24 และเอเจนซี่ของพวกเขา The Cre8tive Lab และ Yumetomo จะรีบแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดนะครับ" อีจงซอก ยังได้ปิดท้ายแบบติดตลกด้วยว่า "ผมไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย ดังนั้น ผมจึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง... (แม่ครับ วันนี้ผมจะกลับบ้านสายหน่อยนะครับ...) แหล่งข่าวจากต้นสังกัด A-Man Project ของอีจงซอก ยืนยันว่า นักแสดงได้แชร์และกล่าวว่า "พวกเขาควรจะได้ออกจากจาการ์ต้าตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนแล้ว อย่างไรก็ตาม มันเป็นปัญหาระหว่างผู้จัดงาน yes24 สาขาท้องถิ่นกับหน่วยงานของอินโดนีเซียเอง เพราะว่า yes24 ได้รายงานผลการจำหน่ายบัตรงานแฟนมิตติ้งน้อยกว่าความเป็นจริง นั่นมันจึงกลายเป็นที่มาของปัญหา เราเชื่อว่าพาสปอร์ตได้ถูกยึดจากบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบ วันนี้เรากำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างหนักในกรุงจาการ์ต้า อีจงซอกตอนนี้ยังอยู่ที่นั่น พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างการปรับตารางการทำงานของเขาเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ไปกระทบกับการตารางการถ่ายทำละครและงานอื่นๆ ของเขาด้วย" ซึ่งในภายหลังอีจงซอกได้มีการลบภาพสนามบินจาการ์ต้าออกจาก Instagram ของตัวเองแล้ว ภาพจาก...

YNK Entertainment บริษัทต้นสังกัดของอีจงซอกได้ประกาศว่า อีจงซอก จะมีแฟนมิตติ้งที่ประเทศญี่ปุ่น 2 ครั้ง ในชื่อมิตติ้งว่า "2018 LEE JONG SUK FANMEETING IN JAPAN" ในธีม 'Crank up'  วันที่ 17 สิงหาคม ที่เมืองชิบะ และ 19 สิงหาคม ที่เมืองโอซาก้า ราคาบัตรเข้าชมทุกที่นั่ง 10,800 เยน (เป็นเงินไทย-ก.ค.2018 ประมาณ 3,240 บาท รวมภาษีแล้ว) หลังจากนั้น วันที่ 1 กันยายน จะจัดให้มีงานมิตติ้งในประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิด ณ กรุงโซล ในชื่อ "2018 LEE JONG SUK FANMEETING IN SEOUL" ในธีม 'PIT a PAT' ต่อจากนั้นอีจงซอกก็จะเริ่มแฟนมิตติ้งทัวร์พบกับแฟนๆ ชาวไต้หวันในวันที่ 9 กันยายน ต่อด้วย ประเทศไทย ในวันที่ 15...