[เรื่องย่อ] BLACKPINK: Light Up the Sky สารคดีออริจินัลคอนเทนต์ K-POP เรื่องแรกของ Netflix

BLACKPINK: Light Up the Sky สารคดีออริจินัลคอนเทนต์เคป๊อปเรื่องแรกของ Netflix เหล่า BLINK ทั่วโลกพร้อมจะดูแล้ว!

รายละเอียดสารคดี

  • ชื่อสารคดี: BLACKPINK: Light Up the Sky
  • ผู้กำกับ: แคโรลิน เซอ
  • ศิลปิน: จีซู  เจนนี่ โรเซ่  ลิซ่า BLACKPINK
  • สร้างโดย: คาร่า โมเนส
  • กำหนดออกอากาศ: 14 ตุลาคม 2020
  • ซับไทย: Netflix

โครงเรื่อง

BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY จะพาผู้ชมเข้าไปทำความรู้จักสมาชิกทั้ง 4 คนของวงแบล็กพิงก์ ตั้งแต่ช่วงที่เป็นศิลปินฝึกหัดไปจนถึงช่วงประสบความสำเร็จระดับโลกในฐานะวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่ดังที่สุดตลอดกาล และเผยข้อพิสูจน์ว่าแวดวงดนตรีไม่มีคำว่าพรมแดนหรือข้อจำกัดทางภาษาที่จะมาขวางกั้นได้

เรื่องย่อ

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2016 แบล็กพิงก์ก้าวขึ้นมาเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปฮอตฮิตติดท็อปชาร์ตสูงสุดตลอดกาลจากเพลงแนวใหม่ มิวสิกวิดีโอที่ตื่นตาตื่นใจ และแฟชั่นโดนใจชาวเน็ต สารคดี BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY จะเปิดโลกของแบล็กพิงก์ให้บรรดา “บลิ๊งค์” ทั่วโลกได้เห็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครเคยได้เห็นมาก่อนและรอคอยมานานหลายปี

สารคดีเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ แคโรลิน เซอ (จาก “เปรี้ยว ร้อน มัน เค็ม (Salt Fat Acid Heat)” ทาง Netflix) และจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคนในวง ทั้ง จีซูหรือออนนี่ (“พี่สาวคนโต”) ของวงที่พกไหวพริบปฏิภาณและอารมณ์ขันแนวๆ เจนนี่ แรปเปอร์สุดเฟียร์ซบนเวทีที่จริงๆ แล้วเป็นคนไม่ค่อยพูด โรเซ่ สาวเสียงสวยจากออสเตรเลียที่เข้ามาในฐานะนักร้องนักแต่งเพลง และ ลิซ่า แดนซิ่งควีนน่ารักสดใสที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในวง

แบล็กพิงก์กำลังทะยานทุบสถิติใหม่ในเส้นทางอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตที่ขายตั๋วหมดทุกรอบไปจนถึงการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีโคเชลลา แต่ในสารคดีเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละคนจะมาเปิดอกเล่าช่วงเวลาทั้งดีและแย่จากการมีชื่อเสียง รวมทั้งเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไปสู่การสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จระดับโลก

BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY จะมาเผยให้ทุกคนได้เห็นชีวิตของทั้งสี่สาวอย่างแท้จริงที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ และอิทธิพลในการสร้างวัฒนธรรม K-POP ที่แผ่ขยายไปได้ไกลขึ้นอีก ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าแวดวงดนตรีไม่มีคำว่าพรมแดนหรือข้อจำกัดทางภาษาที่จะมาขวางกั้นได้

เกร็ดสารคดี: เส้นทางสายอาชีพของ BLACKPINK

29 มิถุนายน 2016: หลังจากมีกระแสและการคาดการณ์ออกมาหลายปี ในที่สุด YG Entertainment ก็ประกาศเปิดตัววงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของบริษัทในช่วง 7 ปีภายใต้ชื่อแบล็กพิงก์

8 สิงหาคม 2016: แบล็กพิงก์ปล่อยอัลบั้มซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อว่า Square One ซึ่งประกอบด้วยเพลง “Whistle” และ “Boombayah” ที่ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ในชาร์ตบิลบอร์ด โดยแบล็กพิงก์ถือเป็นวงที่ไต่อันดับเพลงได้เร็วที่สุดและเป็นศิลปินเกาหลีเพียงวงที่สามที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้

1 พฤศจิกายน 2016: แบล็กพิงก์ปล่อยอัลบั้มซิงเกิ้ลที่สองที่ชื่อว่า Square Two ซึ่งประกอบด้วยเพลง “Playing with Fire” และ “Stay” โดย “Playing with Fire” เป็นซิงเกิ้ลที่สองของวงที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ดได้

22 มิถุนายน 2017: แบล็กพิงก์ปล่อยซิงเกิ้ลดิจิทัลเดี่ยวซิงเกิ้ลแรก “As If It’s Your Last” ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ด และมิวสิกวิดีโอได้ยอดไลค์ใน YouTube มากกว่าวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปทุกวง

ปี 2018: แบล็กพิงก์เซ็นสัญญากับค่าย Interscope Records ในฐานะพันธมิตรระดับโลกของ YG Entertainment

15 มิถุนายน 2018: แบล็กพิงก์ปล่อยอัลบั้ม EP ภาษาเกาหลีที่ชื่อว่า Square Up เป็นอัลบั้มแรก ซึ่งนำโดยซิงเกิ้ล  “Ddu-Du Ddu-Du” จากนั้นสร้างปรากฏการณ์วงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่นำเพลงฮิตติดชาร์ตสูงสุดอันดับที่ 55 ใน Billboard Hot 100 ส่วนมิวสิกวิดีโอเพลง “Ddu-Du Ddu-Du” กวาดยอดวิวได้ถึง 36.2 ล้านวิวภายใน 24 ชั่วโมง และกลายเป็นมิวสิกวิดีโอจากวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่กวาดยอดวิว 100 ล้านวิวได้เร็วที่สุด หรือภายใน 10 วัน และหลังจากนั้นยังทุบสถิติเป็นมิวสิกวิดีโอจากวงเกาหลีที่ได้ยอดวิวมากที่สุดใน YouTube

19 ตุลาคม 2018: ดัว ลิปา นักร้องชาวอังกฤษปล่อยเพลง “Kiss and Make Up” ที่ฟีเจอริ่งกับแบล็กพิงก์ และนี่คือการร่วมงานครั้งสำคัญกับศิลปินระดับโลกครั้งแรกของแบล็กพิงก์

10 พฤศจิกายน 2018: การทัวร์คอนเสิร์ต BLACKPINK World Tour (In Your Area) เริ่มต้นที่กรุงโซลและขยายไปยังเมืองใหญ่ใน 4 ทวีป อาทิ กรุงเทพมหานคร ปารีส นวร์ก และซิดนีย์ หลังจากการทัวร์คอนเสิร์ตสุดท้ายในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นจบลง แบล็กพิงก์กลายเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่กวาดรายได้มากที่สุดตลอดกาล

5 เมษายน 2019: แบล็กพิงก์ปล่อยอัลบั้ม EP “Kill This Love” และซิงเกิ้ลแรกที่ใช้ชื่อเดียวกัน ซึ่งกลายเป็นอัลบั้มและเพลงติดอันดับสูงสุดของวงใน Billboard 200 และ Billboard Hot 100 ตามลำดับ

8 เมษายน 2019: “Kill This Love” กลายเป็นมิวสิกวิดีโอที่สร้างกระแสและโด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ YouTube โดยแบล็กพิงก์กลายเป็นวงเค-ป็อปวงแรกที่มีมิวสิกวิดีโอ 2 เพลงซึ่งคว้ายอดวิวเกิน 1 พันล้านวิว

12 เมษายน 2019: แบล็กพิงก์เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีโคเชลลา

28 สิงหาคม 2020: แบล็กพิงก์เปิดตัวเพลงใหม่ “Ice Cream” โดยฟีเจอริ่งกับเซเลน่า โกเมซ และไต่อันดับที่ 13 ใน Billboard Hot 100 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่วงติดอันดับท็อป 20 ในชาร์ตนี้ นับตั้งแต่วงฟิฟท์ฮาร์โมนี แบล็กพิงก์กลายเป็นวงเค-ป็อปหญิงล้วนวงแรกที่นำเพลงขึ้นติดอันดับท็อป Top 40 ได้ติดกัน 3 เพลง

2 ตุลาคม 2020: แบล็กพิงก์ปล่อยอัลบั้มเต็มภาษาเกาหลีอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า THE ALBUM

14 ตุลาคม 2020: BLACKPINK: Light Up The Sky มีกำหนดออกฉายทาง Netflix

ประวัติของวง BLACKPINK

แบล็กพิงก์ BLACKPINK ใช้คำติดหู “BLACKPINK in your area!” ขึ้นต้นเนื้อเพลงซิงเกิ้ลหลักๆ หลายเพลง และในปี 2020 นี้ดูเหมือนว่าคำๆ นี้เป็นจริงไม่น้อยเพราะแบล็กพิงก์ยึดพื้นที่และหัวใจคนทั้งโลกไปแล้ว

นับตั้งแต่นาทีที่ YG Entertainment เปิดตัวแบล็กพิงก์ในปี 2016 หลังจากมีกระแสออกมาหนาหู สมาชิกทั้ง 4 คนของวงก็ทุบสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยซิงเกิ้ล 2 เพลงแรกอย่าง “Whistle” และ “Boombayah” ครองอันดับ 1 และอันดับ 2 ใน Billboard World Chart ตั้งแต่เปิดตัว และแบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินที่ไต่อันดับชาร์ตเพลงได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังทุบสถิติของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มิวสิกวิดีโอ “Ddu-Ddu Ddu-Ddu” “Kill This Love” และ “How You Like That” ที่คว้ารางวัล VMA ช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ไปครอง ในขณะเดียวกันแบล็กพิงค์ก็ทำสถิติ Guinness World Records 5 ครั้ง รวมไปถึงการเปิดตัวมิวสิกวิดีโอที่กวาดยอดวิวสูงสุดในขณะนั้น หลังจากปล่อยอัลบั้มเต็มภาษาเกาหลีอัลบั้มแรกในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ สารคดี BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY จาก Netflix ถือเป็นผลงานปิดปีแห่งความสำเร็จระดับพลิกวงการในฐานะวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล

ตั้งแต่วันแรกที่แบล็กพิงก์ตั้งวง มิวสิกวิดีโอที่ล้ำสมัยและเพลงป็อปฮิตติดหูซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานสร้างของเท็ดดี้ พาร์ค โปรดิวเซอร์มือทองของค่าย YG Entertainment ถือเป็นหัวหอกที่สำคัญในการสร้างฐานแฟนคลับแบล็กพิงก์ไปทั่วโลก เป็นการขยายอิทธิพลทางดนตรีในหลายวัฒนธรรมและก้าวข้ามข้อจำกัดทางภาษา ปัจจุบันแบล็กพิงก์ขึ้นแท่นวงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต Billboard Hot 100 และ Billboard 200 มากที่สุด และได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกที่มีผลงานเพลงภาษาอังกฤษ เช่น เลดี้กาก้าและดัว ลิปา

ต่อมาในปี 2019 แบล็กพิงก์ออกทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกครบ 23 เมืองใน 4 ทวีป โดยทำการแสดง 32 ครั้ง รวมทั้งจัดโดมทัวร์ในญี่ปุ่น 4 งาน และเร็วๆ นี้ แบล็กพิงก์ได้ร่วมงานกับเซเลน่า โกเมซในเพลง “Ice Cream” และไต่อันดับท็อป 20 ใน Billboard 100 เป็นครั้งแรก โดยมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ทำสถิติวิดีโอเพลงที่มียอดวิวใน YouTube มากที่สุดเป็นอันดับ 3 หลังจากหลังเปิดตัวไปแล้ว 24 ชั่วโมง

นอกจากงานดนตรีและมิวสิกวิดีโอชั้นแนวหน้าแล้ว แฟนคลับแบล็กพิงก์ที่เรียกกันว่า “บลิ๊งค์” ยังชื่นชอบเคมีและความมีเสน่ห์ของสมาชิกทั้ง 4 คนในวง เริ่มจาก จีซู หรือออนนี่ (“พี่สาวคนโต”) หัวไว เจนนี่ เจ้าแม่แฟชั่นและแร็ปเปอร์หลักของวง โรเซ่ นักร้องที่มีเสียงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงป็อป และ ลิซ่า แดนซิ่งควีนและมักเน่ (น้องคนสุดท้อง) ของกลุ่ม สมาชิกทั้ง 4 คนมารวมตัวกันจากคนละประเทศ ทั้งเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และไทย หลังจากผ่านการคัดตัวสุดโหดและได้มาเจอกันในโครงการศิลปินฝึกหัดของค่าย YG Entertainment สาวๆ ทั้ง 4 คนก็สร้างความผูกพันเหนียวแน่นตลอดมา

หลังจากผ่านการฝึกหัดอันหนักหน่วงและอุปสรรคอื่นๆ ที่ศิลปินเค-ป็อปชั้นระดับท็อปต้องเจอแล้ว จีซู เจนนี่ โรเซ่ และลิซ่าตั้งใจว่าจะไม่หยุดเพียงความสำเร็จและความชื่นชมที่ได้รับ แต่ยังเดินหน้าคว้าเป้าหมายใหม่ๆ ต่อไป โดยปล่อยอัลบั้มเต็มภาษาเกาหลีอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า THE ALBUM ออกมาในวันที่ 2 ตุลาคม ดังที่ปรากฏในสารคดี BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY เราจะได้เห็นว่าเส้นทางของแบล็กพิงก์เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น และบรรดาบลิ๊งค์ทั่วโลกยังรอคอยผลงานใหม่ๆ จากพวกเธอเสมอ

ประวัติแคโรลิน เซอ (ผู้กำกับ)

แคโรลิน เซอเป็นผู้สร้างสารคดีอิสระที่เคยมีผลงานผ่านตาทาง Netflix, CNN Films, Sundance Channel, PBS, Epix, A & E, History Channel และอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการทีวี และโฆษณา ตลอดระยะเวลา 20 ปีในวงการบันเทิง แคโรลินเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้สร้าง และผู้จัดซีรีส์และภาพยนตร์ชั้นนำหลายเรื่อง และเคยมีผลงานซีรีส์ 4 ตอนทาง Netflix เรื่อง SALT, FAT, ACID, HEAT ที่ดัดแปลงจากหนังสือขายดีของซามิน โนสราตและสร้างโดยบริษัท Jigsaw Productions ของอเล็กซ์ กิบนีย์

นอกจากนี้ เธอยังสร้างและกำกับซีรีส์ 6 ตอนเรื่อง 4% ที่ออกฉายทาง Epix ซึ่งเป็นการตีแผ่ประเด็นในแวดวงฮอลลีวูดที่ขาดแคลนผู้กำกับหญิง ก่อนหน้านี้ แคโรลินยังเคยรับหน้าที่ผู้จัดและผู้กำกับซีรีส์ ICONOCLASTS ของ RadicalMedia ให้กับ Sundance Channel ตลอดจนร่วมมือกันสร้างผลงานโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และโฆษณามากมาย ทั้งนี้ เส้นทางสู่การเป็นผู้กำกับของแคโรลินเริ่มต้นจากการกำกับภาพยนตร์ FRONTRUNNERS (Oscilloscope Pictures) ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม

รวมคำศัพท์ฉบับแฟนคลับเค-ป็อป

Bias (ไบแอส): เราไม่จำเป็นต้องรักสมาชิกทุกคนในวงโปรดเท่าๆ กันก็ได้ คนที่เป็น “Bias” ของเราคือสมาชิกในวงที่เราเป็นติ่งมากที่สุด ส่วนศัพท์อีกคำที่ลึกกว่าคำว่า Bias คือ “Bias Wrecker” ซึ่งหมายถึงสมาชิกในวงที่น่ารัก ตลก และมากความสามารถจนถึงขั้นชิงตำแหน่ง Bias ได้ ส่วน “Ultimate Bias” คือไอดอลที่เราชอบมากที่สุดในบรรดาทุกวง หรือเรียกง่ายๆ ว่าขวัญใจสุดโปรดนั่นเอง

BLINK (บลิ๊งค์): บลิ๊งค์คือคำที่ใช้เรียกแฟนคลับของแบล็กพิงค์อย่างเป็นทางการ ซึ่งวงทุกวงจะมีชื่อเรียกแฟนคลับของตัวเองอยู่แล้ว การเป็นแฟนคลับเค-ป็อปไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เราต้องรู้ว่าแฟนคลับใช้คำเรียกวงที่ชอบว่าอะไร โบกแท่งไฟเชียร์ แชร์และสนับสนุนผลงานของวงด้วย อยู่เคียงข้างกันตลอดไป (BLINKs Forever!)

Comeback (คัมแบ็ค): ศัพท์คำนี้น่าจะสร้างความตื่นเต้นให้แฟนคลับเค-ป็อปได้มากที่สุด ซึ่งหมายถึงเวลาที่วงออกเพลงใหม่และเดินสายโปรโมตรอบใหม่ วงเค-ป็อปหลายๆ วงปล่อยมินิอัลบั้ม 3-4 อัลบั้มต่อปี โดยแต่ละอัลบั้มจะมีการคัมแบ็คเป็นของตัวเอง แต่แบล็กพิงก์ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ การได้เห็นแบล็กพิงก์คัมแบ็คปีละครั้งถือเป็นโชคของบรรดาบลิ๊งค์แล้ว และปี 2020 ถือเป็นปีแห่งโชคจริงๆ ที่แบล็กพิงก์ทุบสถิติปล่อยเพลงออกมาถี่ที่สุด

Lightstick (แท่งไฟ): วงเค-ป็อปส่วนมากจะมีแท่งไฟที่ทำตามธีมวงของตัวเอง ซึ่งแฟนคลับถือว่าเป็นเหมือนคทาวิเศษ ด้านแบล็กพิงก์ก็มีแท่งไฟที่เจ๋งที่สุดด้วยเหมือนกัน โดยออกแบบมาเป็นค้อนติดรูปหัวใจ ซึ่งจะเปิดไฟและกะพริบตามเสียงเพลง หรือส่งเสียงได้เมื่อทุบ เราจะได้เห็นคลื่นไฟสีชมพูมหาศาลเวลาชมคอนเสิร์ตของวง

Trainee (เด็กฝึก): ไอดอลเค-ป็อปส่วนมากต้องผ่านการฝึกอันหฤโหดต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีก่อนเปิดตัว การแข่งขันในวงการเค-ป็อปถือว่าสูงมาก และไอดอลแต่ละคนแบกความคาดหวังที่ว่าจะต้องเต้นท่ายากและซับซ้อนบนเวทีให้ได้ รวมทั้งต้องวางตัวดีเพียบพร้อมทั้งบนเวทีและในชีวิตจริง มีเพียงเด็กฝึกที่มีความสามารถและความทุ่มเทมากที่สุดเท่านั้นที่จะได้เปิดตัวเป็นศิลปิน

อ่านต่อ [แปลไทย] จีซู เจนนี่ โรเซ่ ลิซ่า ให้สัมภาษณ์เปิดตัว BLACKPINK: Light Up the Sky ภาพยนตร์สารคดี K-POP เรื่องแรกของ Netflix พร้อม Timeline กว่าจะมาเป็น BLACKPINK และพิเศษรวมศัพท์ K-POP

ตัวอย่างสารคดี BLACKPINK: Light Up The Sky ซับไทย

<<คลิกที่นี่ เพื่อรับชมภาพยนตร์สารคดี BLACKPINK: Light Up The Sky ซับไทยทาง Netflix>>