ห้ามพลาด ซนซอกกู เล่าเรื่องส่วนตัว ความรัก สเปกสาว ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

ซนซอกกู Mom's Diary

จะเป็นยังไง เมื่อ ซนซอกกู มาเยือนรายการวาไรตี้เป็นครั้งแรกใน Mom’s Diary

บทความนี้ KZabs ตั้งใจรีแคปข้อมูลต่าง ๆ ของ ซนซอกกู (Son Suk Ku) มาให้แฟน ๆ ที่หลงและคลั่งไคล้ คุณกู จาก My Liberation Notes ได้รู้ถึงเบื้องหลังชีวิตแบบที่ลึกจริง ๆ เพราะเจ้าตัวมาเล่าด้วยตนเองเลยเป็นครั้งแรกในรายการวาไรตี้ Mom’s Diary เมื่อปี 2021 โดยตั้งแต่เข้าวงการมา เขาเคยไปร่วมรายการวิทยุมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกในการมาร่วมรายการวาไรตี้ที่ทั้งสนุก ฮา มีเสียงหัวเราะตลอดรายการ ทำให้เราได้เห็นมุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนของผู้ชายคนนี้ “ซนซอกกู”

#ชีวิตวัยเรียนในต่างแดนของซนซอกกู

ซนซอกกู ไปเรียนต่อที่อเมริกาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมต้น

ซนซอกกู Mom's Diary

“เมื่อมองดูตัวเองในตอนนี้ผมรู้สึกทึ่งมาก”

ซนซอกกูกล่าวเริ่มต้นก่อนเปิดเผยว่า ตอนเด็กเขาเป็นคนที่ขี้อายหนักมาก มากขนาดที่ไม่กล้าไปไหนมาไหนหลังเลิกเรียน จะตรงดิ่งกลับบ้านเลยเท่านั้น ยิ่งช่วงสุดสัปดาห์ก็จะอยู่แต่ในบ้าน ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง จึงหาวิธีแก้ด้วยการพาไปเขาไปเที่ยวห้าง แต่เขากลับไม่พูดอะไรสักคำจนกลับถึงบ้าน นั่นยิ่งทำให้พ่อแม่ยิ่งเป็นห่วงยิ่งขึ้นเพราะเขาดูเป็นเด็กน้อยที่ขี้อายจนเกินไป

แต่ต่อมาจู่ ๆ ความคิดที่ว่า “ฉันต้องทำตัวสบาย ๆ บ้างนะ” ก็แว๊บเข้ามาในหัว

#สไตล์การเดตในชีวิตจริงและเรื่องราวความรักที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

ซนซอกกู เปิดเผยเรื่องราวความรักสมัยตอนอาศัยอยู่ที่แคนาดากับน้องชาย เขาเคยมีแฟนเป็นคนแคนาดา และพอถึงวันวาไลนไทน์ เขาก็พาแฟนนั่งเรือไปที่เกาะแห่งหนึ่งเพื่อกินอาหารในร้านที่เท่มาก ๆ เพราะเคยเห็นรูปมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันกลับล่มไม่เป็นท่า เพราะเมื่อไปถึงที่เกาะนั้นก็พบแต่ความมืดสนิท จนทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนั่งเรือกลับ แล้วเขาก็ได้แต่คิดว่า

“โอ้มายกอด..การเดตนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสินะ มันต้องมีการวางแผนก่อนเสมอ”

แล้วเขายังเปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นเพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เขาจึงมีการวางแผนอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องเลย (หัวเราะ)

#สเปกสาวในอุดมคติของซนซอกกู

เมื่อถูกถามถึงสเปกสาว ซนซอกกู ก็ตอบว่า ต้องเป็นคนมีอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติประมาณ 25 ข้อ แต่ข้อนี้ถือเป็น คุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับเขา (ใครอารมณ์ขันต่อแถวรับใบสมัครได้เลย แล้วไปลุ้นอีก 24 ข้อที่เหลือนะทุกคน)

สเปกสาวของ ซนซอกกู

และเมื่อต้องให้เลือกระหว่าง หญิงสาวที่มีคุณสมบัติโอเคแต่ไม่มีอารมณ์ขันสักนิด กับ หญิงสาวที่คุณสมบัติไม่ครบ แต่เป็นคนตลกมาก เขาตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า เลือกคนที่ตลกมาก

แต่พอให้เลือกว่าถ้าได้เจอหญิงสาวที่เป็นสเปกในฝัน แบบฝันถึงมาตั้งแต่เด็กซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เขาต้องการ ขาดเพียงข้อเดียวคือ พูดไม่เก่งไม่มีอารมณ์ขัน อันนี้เขาบอกเลยว่า “อันนี้ก็ยากหน่อยครับ” ฮา (หมายถึง ตัดสินใจยากมาก)

#การแสดงครั้งแรกของซนซอกกูเกิดขึ้นที่อเมริกา

ซนซอกกู เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เอกศิลปะ และหลังจากจบก็พยายามจะเป็นนักบาสเกตบอล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น

ถ้าถามว่าชอบบาสเกตบอลขนาดไหน เขาเล่าในรายการว่า ถ้ามีเทพสักองค์มาถามว่า “ถ้าเจ้าเลือกใหม่ได้ แล้วเริ่มใหม่อีกรอบจะทำอะไร” เขาบอกจะตอบว่า “ผมจะเลือกเป็นนักบาสเกตบอล” เพราะเป็นความฝันของเขา

ตอนที่เรียนอยู่อเมริกาทั้งตอน ม.ต้น และ ม.ปลาย จำเป็นต้องเล่นกีฬา และกีฬาที่เขาทำได้ดีที่สุดคือ กรีฑา จนพิธีกร ชินดงยอบ ถึงกับแซวว่า สรุปไม่เคยเล่นบาสมาก่อนด้วย แต่อยากเป็นนักบาสหลังเรียนจบ เหมือนคนที่ไม่เคยเรียนหมอแล้วจู่ ๆ ก็อยากเป็นหมอ เล่นเอาซนซอกกูได้แต่ขำกลิ้งกับคำแซวนี้

#สิ่งที่ซนซอกกูทนไม่ได้เมื่อคนอื่นทำแบบนี้

เมื่อถามถึงสิ่งที่เขาไม่ชอบนั่นก็คือ คนที่ทำกินแล้วมีเสียงแจ๊บ ๆ โดยเขาเล่าว่า มีเพื่อนคนหนึ่งที่กินเสียงดังแจ๊บ ๆ เป็นประจำ ซึ่งเขาเลยถึงขั้นลองทำตาม แต่มันก็ไม่ได้เสียงดังแบบนั้น แล้วตอนที่นั่งเครื่องบินไปด้วยกัน เพื่อนก็กินเสียงดังแบบเดิม แต่พออยู่บนเครื่องบินเสียงมันยิ่งก้อง ทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่ชอบเข้าไปใหญ่ และกลายเป็นว่าไม่ว่าใครที่กินเสียงดังแบบนี้ก็จะรำคาญจนทนไม่ได้

ส่วนเวลาที่เจอคนกินเสียงเบา ก็จะรู้สึกว่า คนนั้นเป็นคนที่ใช้ได้เลย

พิธีกร ซอจางฮุน จึงโยนคำถามที่ทำให้เขาต้องคิดหนักและจริงจังมากไปว่า “ถ้าเจอผู้หญิงที่เพียบพร้อมตามสเปกของเขา คุยเก่งและตลก แต่เวลากินจะมีเสียงแจ๊บ ๆ เขาจะทำยังไง”

ซึ่งคำถามนี้เล่นเอาซนซอกกู อึ้งและคิดทบทวนจำลองภาพจริงจังมาก และในที่สุดก็ตอบว่า “น่าจะลำบากอยู่เหมือนกันครับ” พร้อมทั้งหัวเราะเสียงดัง (แบบตัดสินใจไม่ได้เลย)

#เมนูที่ซนซอกกูชอบกิน

ในรายการมีการนำเอาเมนูเซ็ตคอมโบที่ประกอบด้วยปูดองซีอิ๊ว สาหร่ายแห้ง ปลาดิบ ข้าวขาวคลุกชาเขียวกับปลาจวดเหลือง มาเรียกน้ำย่อยคนในรายการ และ ซนซอกกู ที่ดูอยู่ก็เปิดเผยว่าเขาชอบคอมโบนี้มาก เพราะเพิ่งกินมาไม่นาน และการันตีว่ามันอร่อยมากจริง ๆ

อาหารที่ ซนซอกกู ชอบ

#ภาพโปรไฟล์ซนซอกกูที่ทำเอาชาวเน็ตฮือฮา

ก่อนหน้านี้ในเว็บไซต์พอร์ตทัล Naver ของเกาหลีใต้ ได้ลงรูปถ่ายแฟชั่นของ ซนซอกกู เป็นรูปโปรไฟล์ประจำตัว แต่เจ้าตัวกลับไม่ชอบรูปนั้นด้วยเหตุผลที่ว่า

“มันดูไม่ใช่ผม จนทนดูไม่ได้”

และได้เปลี่ยนเป็นรูปถ่ายจากในหนังสือเดินทางแทน ด้วยเหตุผลว่า “ตอนนั้นผมเพิ่งไปถ่ายรูปเพื่อต่อหนังสือเดินทางพอดี และรูปมันออกมาใช้ได้อยู่ครับ ก็เลยไม่รู้สิ..ผมเลยเปลี่ยนรูป”

Profile Son Suk Ku on Naver

จนในเดือนสิงหาคม ปี 2020 รูปโปรไฟล์เขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นรูปอื่นโดยต้นสังกัดสั่งเปลี่ยนเพราะท่านประธานเคร่งครัดกับรูปโปรไฟล์มาก

#ซนซอกกูกับการขับรถ

ซนซอกกู สารภาพในรายการว่าไม่ชอบขับรถ ถึงแม้เขาจะสอบใบขับขี่แล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้ขับมานาน และตอนที่กลับมาขับใหม่ก็มีคุณแม่มาคอยสอนข้าง ๆ

ส่วนตัวแล้ว เขาไม่มีรถ ไม่ค่อยได้ขับรถ เวลาขับทีไรก็จะหงุดหงิดด้วย ดังนั้น ตอนถ่ายทำที่มีฉากขับรถเลยทำให้มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะขับรถไม่เก่ง

ซนซอกกู ขับรถ

#น้องชายของซนซอกกู

ซนซอกกู มีน้องชายแท้ ๆ 1 คน ชื่อ ซนซังกู เขามีใบหน้าคล้ายพี่ชาย แต่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่า

พ่อแม่ของ ซนซอกกู อาศัยอยู่ที่แทจอน เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในกรุงโซลจึงอยู่ร่วมกับน้องชายที่เด็กกว่า 2 ปี ตอนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันใหม่ ๆ เพราะความที่น้องชายเป็นคนตัวใหญ่ และพื้นที่ห้องของพวกเขามีเพียงแค่ 23 ตารางเมตร การต้องนอนบนเตียงที่เล็กกว่าขนาดควีนไซซ์ร่วมกัน ทำให้เขาอึดอัดมาก จนต้องไปนอนพื้นแทนเป็นเวลาถึง 2 ปี

ตอนนั้นน้องชายของเขาทำงานบริษัท ในขณะที่เขาแทบไม่มีงานทำ ก็เลยทำความสะอาด ทำอาหาร ทิ้งขยะ และทำทุกอย่าง ก็เลยไม่มีปัญหากัน

แต่ปัญหามันก็มาเกิด ตอนที่ซนซอกกูมีงานยุ่งทำและย้ายไปอยู่บ้านใหม่ด้วยกัน เพราะกลายเป็นว่าไม่มีใครทำงานบ้านได้เลย

พวกเขาเคยทะเลาะครั้งใหญ่จากการเริ่มต้นด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณวา ฉันก็ทำนี่แล้ว ทำไมนายไม่นั้นบ้าง จากนั้นก็กลายเป็นพูดอะไรที่พี่น้องไม่ควรพูดออกมา เลยทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ค่อยดีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เขาเล่าถึงพ่อให้ฟังด้วยว่า พ่อกับน้องชายมีความคล้ายกันตรงไม่ค่อยพูด แต่คิดว่า ถ้าใครมาถามว่ามีความสัมพันธ์กับนักแสดง ซนซอกกู ไหม เขาก็คิดว่า คงจะไม่มีใครปฏิเสธ เพราะน้องชายหน้าเหมือนเขามาก แต่สูงกว่า

แต่ก็มีเรื่องขำในวัยเด็กก็คือ ตอนน้องชายอยู่มัธยมต้น เคยมีครูที่ไม่ชอบหน้าซนซอกกู มาเจอน้องชาย แล้วก็ถามว่า “เธอเป็นน้องชายของซอกกูเหรอ” ซึ่งน้องเขาก็ปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ (ฮา)

ซนซอกกู พี่น้อง น้องชาย

คลิก ที่นี่ เพื่อรับชม ซนซอกกู ฟรี! ในรายการ Mom’s Diary 

อ่านต่อ