จากนิยายขายดีสู่ภาพยนตร์ทำเงิน
“KIM JI-YOUNG, BORN 1982 – คิมจียองเกิดปี ’82” ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2016 ซึ่งกลายเป็นหนังสือที่มียอดขายหลักล้านเล่มแรกในรอบ 9 ปี กับตลาดสิ่งพิมพ์ที่กำลังจะตายในยุคนี้ และยังได้ถูกซื้อลิขสิทธิ์เพื่อแปลเป็นภาษาอื่น อย่างเช่น จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ภาษาไทย กลายเป็นนิยายที่ได้รับความสำเร็จเกินความคาดหมาย
นิยายเรื่องนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของหญิงสาวธรรมดาๆ ในวัย 30+ ที่ต้องมาเผชิญกับความซับซ้อนในชีวิตธรรมดาๆ แบบคาดไม่ถึง
นอกจากนี้ ยังมีความน่าตกใจของนิยายเรื่องนี้นอกจากเรื่องขายดีแล้ว เนติเซนบางคนกลับให้ระดับนิยายเรื่องนี้เป็น “ตำราแห่งเฟมินิสต์” หรือ “ตำราแห่งสตรีนิยม” พอมีการประกาศทำเป็นภาพยนตร์ แน่นอนว่าจะต้องมีคนบางกลุ่มต่อต้าน ถึงขนาดก่อนฉาย ก็ถูกวิจารณ์หนัก บ้างก็ไปกลั่นแกล้งให้คะแนนภาพยนตร์แค่ 1 ดาว
แต่จากการเข้าฉายเพียงสัปดาห์แรกในเกาหลีใต้ KIM JI-YOUNG, BORN 1982 ก็สามารถขายตั๋วได้ถึง 1 ล้านใบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับภาพยนตร์แนวดราม่าเช่นนี้ และเมื่อผ่านไป 8 วัน ก็สามารถทำรายได้ผ่านจุดคุ้มทุนไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเนติเซนต่างก็ให้คะแนนไปในทางดี และเกิดกระแสไวรัล ปากต่อปาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่บอกว่า นิยายและภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างเพื่อสตรีนิยม
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่ดูแสนจะธรรมดาสุดๆ ที่เราๆ จะเห็นได้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ชีวิตของตัวเอง
“หญิงสาวที่ผ่านการมีครอบครัว มีสามี มีลูก และเป็นแม่บ้าน คุณก็อาจจะเป็น คิมจียอง คนหนึ่งก็ได้”
2 สุดยอดนักแสดงที่รับบทนำในเรื่อง
จองยูมี (Jung Yu Mi) รับบทเป็น คิมจียอง เกิดปี 1982 ปีที่พ่อแม่ต่างก็พากันตั้งชื่อลูกสาวว่า คิมจียอง จนกลายเป็นชื่อโหล (จองยูมีตัวจริงเกิดต้นปี 1983 วัยเดียวกับตัวละคร) คิมจียอง เป็นแม่ของเด็กวัย 3 ขวบ ในวัย 20 ปี เธอก็เหมือนหญิงสาวทั่วไป เรียนจบ หางานทำ ไล่ตามความฝัน การเป็นที่ยอมรับก็ทำให้เธอมีความสุขแล้ว เมื่อถึงวัยแต่งงาน เธอก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเหมือนชีวิตคู่แต่งงานทั่วไป เธอมีลูก แต่แล้วการใช้ชีวิตธรรมดาๆ ของแม่บ้านคนหนึ่ง ก็เริ่มเปลี่ยนไป ภาพยนตร์ให้ความสำคัญกับการบอกเล่าเรื่องราวที่หลายคนอาจมองข้ามตรงนี้
ปัญหาธรรมดาๆ ที่ผู้หญิงทุกคนเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทพูดในภาพยนตร์และสื่อไปถึงคนดู เมื่อคิมจียอง เริ่มเปลี่ยนไป
กงยู (Gong Yoo) รับบทเป็น จองแดฮยอน สามีของ คิมจียอง เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีภรรยาและลูกน้อยที่ดูจะลงตัว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเขาเริ่มสังเกตเห็นว่า คิมจียอง เริ่มเปลี่ยนไปทั้งบุคลิกและท่าที เขาจึงพยายามหาทางเยียวยารักษาและปกป้องเธอ
คำสัมภาษณ์จาก กงยู และ จองยูมี ถึงบทบาทที่ได้รับ
2 นักแสดงที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่องต่างต้องทำงานหนัก เพื่อแสดงให้เหมือนกับว่า ทั้งสองก็เหมือนคู่แต่งงานชาวเกาหลีทั่วไปในยุคนี้
กงยู ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
“ผมต้องพยายามทำตัวให้ไม่โดดเด่นไปกว่าตัวภาพยนตร์”
ซึ่งเราเองก็รู้กันดีว่า ผู้ชายตัวสูง หน้าเล็ก หล่อเหลาอย่างกงยู ที่เดินไปที่ไหนก็โดดเด่น กลับต้องพยายามลดความโดดเด่นตรงนี้ลง ถือเป็นเรื่องท้าทายและเป็นความทุ่มอย่างนึงของอาชีพนักแสดง นอกจากนี้ ยังต้องชื่นชมกงยู เพราะเขาต้องไปเพิ่มน้ำหนักตัวหลายกิโล เพื่อให้ดูเหมือนชายวัย 40 ทั่วไปที่มีครอบครัวอีกด้วย
ในเรื่องของการการรับบทนี้ กงยู กล่าวเพิ่มว่า
“ผมร้องไห้ด้วยครับ ตอนที่อ่านบทอยู่คนเดียวที่บ้าน ผมโทรหาคุณแม่ด้วยหลังจากนั้น เพื่อที่จะขอบคุณท่านที่เลี้ยงดูผมมา”
เขายังเคยกล่าวในรายการทอล์กโชว์ Because I Want to Talk ที่มีอีดงอุคเป็นพิธีกรว่า ปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยโทรหาแม่ แต่หลังจากอ่านบทก็อดไม่ได้ที่จะโทรไปหาท่าน
ในส่วนบทบาทของคิมจียอง จองยูมี ต้องแสดงตั้งแต่วัยรุ่นที่มีแต่ความสดใสไปจนถึงวัยทำงานและแต่งงานจนมีลูกในที่สุด ในช่วงที่ต้องถ่ายทอดตอนปัจจุบันกับการเลี้ยงลูก เราจะได้เห็นการพัฒนาการของตัวละคร คิมจียอง เปลี่ยนเป็นแม่ผู้มีใบหน้าดูเหนื่อยล้า แต่งตัวโทรม รวบผมมัดไว้ด้านหลัง เพื่อไม่ให้ลูกดึง
จองยูมี ทุ่มเทถ่ายทอดบทบาทเหล่านี้ด้วยการไร้เมคอัพต่อหน้ากล้อง ถ้าคุณเคยผ่านการเลี้ยงลูกในวัยแบเบาะคนเดียว คุณจะเข้าใจสิ่งนี้ดี ลำพังแค่อาบน้ำ สระผมยังยาก การแต่งหน้าเหรอ ลืมไปได้เลย
จองยูมี ให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกแย่ มันทำให้เธอนึกไปถึงคนรอบข้าง อย่างคุณแม่ คุณน้าและเพื่อนๆ ที่มีลูก ทุกคนที่เธอพูดมาต่างก็ผ่านการเป็น คิมจียอง มาแล้วทั้งนั้น
ประเทศจะพัฒนาไปแค่ไหน แต่เกิดเป็นผู้หญิงก็ผิดอยู่ดี
ประเทศเกาหลีใต้ที่ถือเป็นประเทศพัฒนาแล้วแบบก้าวกระโดด กลับยังมีจุดอ่อนในเรื่องของการกดขี่เพศหญิงที่ดูจะสวนทางกับความเจริญของประเทศ การทำแท้งลูกอย่างถูกกฏหมายเมื่อรู้ว่าเป็นเพศหญิง ได้กลายเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับได้ในยุคสมัยหนึ่งของประเทศนี้ และแม้แต่ในปัจจุบัน ลูกสาว ก็ยังดูด้อยค่ากว่า ลูกชาย ในสายตาของหลายๆ ครอบครัว
คิมจียอง ในภาพยนตร์เกิดโรคทางใจขึ้นหลังจากมีลูกสาว และจากการใช้ชีวิตประจำวันของเธอที่เปลี่ยนไป โดยที่ตัวเธอเองไม่ทันสังเกตเห็น นอกจากคนรอบกาย บางครั้งเธอก็ดูเหมือนเป็นคนอื่น และเธอดูจะนอยด์ไปเสียทุกอย่าง แม้แต่พระอาทิตย์ตกก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจดิ่งลงไปพร้อมพระอาทิตย์
ภาพยนตร์เดินเรื่องด้วยการเฝ้าติดตามการใช้ชีวิตประจำวันของ คิมจียอง หญิงสาวที่ไม่มีใครสนใจอย่างใกล้ชิด สิ่งนี้ได้บอกเราว่า ภาพยนตร์ต้องการสะท้อนการใช้ชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งกับคนรอบกาย โดยไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสร้างความขัดแย้งใดๆ ยิ่งในเรื่องของสตรีนิยม หรือระหว่างคนบางเพศ หรือคนบางรุ่นแต่อย่างใด
เรื่องราวของความเป็น “แม่”
ภาพยนตร์ “KIM JI-YOUNG, BORN 1982 – คิมจียองเกิดปี ’82” ถ่ายทอดเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเป็นลูก โตขึ้นมาก็เป็นภรรยา และเมื่อมีลูกก็กลายเป็นแม่ คนดูจะเข้าใจถึงความเป็นแม่มากยิ่งขึ้น ผู้หญิงบางคนต้องออกจากงานมาเพื่อดูแลลูกอย่างเดียวเท่านั้น บางคนต้องทิ้งความฝันที่เคยมี แล้วทุ่มเทให้กับเลี้ยงลูกจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ในเกาหลีใต้เองผู้ชมที่เป็นผู้หญิงบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ตระหนักถึงเรื่องนี้และย้อนกลับไปนึกถึงตัวเองในสมัยก่อนตอนเลี้ยงลูก
ในส่วนของคนดูผู้ชาย ก็มีกล่าวว่า เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจภรรยา เขารู้สึกว่าปัญหานี้ถูกเมินเฉยมาเนิ่นนานจนเกินไป
สุดท้าย สิ่งที่แต่ละคนจะได้รับจากการดูภาพยนตร์ที่ต้องการสื่อถึงเรื่องราวที่เราหรือคนรอบกายอาจเคยประสบ น่าจะทำให้เราหันกลับไปใส่ใจกับเรื่องที่ถูกมองข้ามเหล่านี้เสียที
พิสูจน์ความสุดยอดของภาพยนตร์ที่กล้าตีแผ่เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง “KIM JI-YOUNG, BORN 1982 – คิมจียองเกิดปี ’82” ด้วยตัวคุณเอง 30 ธันวาคม 62 ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่าง “KIM JI-YOUNG, BORN 1982 – คิมจียองเกิดปี ’82” ซับไทย
อย่าลืมกดติดตาม KZabs ได้จากช่องทางต่างๆ ด้านล่างนี้
Facebook: @KZabsTalk : KZabs เกาหลีแซ่บหลาย
Twitter: @KZabsTalk
Instagram: @KZabsTalk
Website: www.kzabs.com