รีวิวจัดเต็ม: Dr. Romantic 2 สนุก สุข เศร้าเคล้าน้ำตาครบรส

คะแนนจากผู้เขียน 9.5/10

Dr. Romantic ภาค 1 กับ ภาค 2 (Romantic Doctor Teacher Kim)

เมื่อเริ่มดู Dr. Romantic ภาค 2 ตอนแรกก็รู้ทันทีว่า มีการวางโครงเรื่องในแบบเดียวกับภาค 1 เป็นการเลียนแบบความสำเร็จเดิม โดยใช้องค์ประกอบเดิม เพิ่มเติมเข้าไปนิดหน่อย

ในภาค 2 อ.คิม (ฮันซอกกยู) ยังคงยืนพื้นบทเดิมในการรับมือหมอเด็กคู่ใหม่ ชาย-หญิง ที่ดูเหมือนจะเป็นคู่กัดกันระหว่าง หมอซออูจิน (อันฮโยซอบ) และหมอชาอึนแจ (อีซองคยอง) เช่นเดียวกับภาคแรก คู่หมอคังดงจู (ยูยอนซอก) กับหมอยุนซอจอง (ซอฮยอนจิน) ที่ทั้ง 2 คู่ต่างเคยมี Something กันมาก่อน แล้วก็มาลงเอยที่โรงพยาบาลทลดัม

ตัวร้ายยังคงเป็นตัวเดิมที่เพิ่มเติมคือ เลเวลอำนาจที่มากขึ้น แต่เป้าหมายยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน เกลียดแล้ว เกลียดเลย ต้องตายกันไปข้าง

จากความซ้ำในเนื้อหาก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกหวั่นใจในตอนดู EP1 ลุ้นว่าจะรอดไหมนะ?

เคสผ่าตัดสุดลุ้น

ใน EP2 หลังจากเริ่มปูตัวละครใหม่ในตอนแรกไป ก็เริ่มมีเคสผ่าตัด VIP ที่ทำให้คนดูได้ลุ้น ได้รำลึกความทรงจำครั้งเก่าว่า เราดูเรื่องนี้เพราะอะไร ความสนุกของ Dr. Romantic อยู่ตรงไหน และในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่า เคสผ่าตัดต่างๆ นี่เอง ที่ทำให้คนดูอย่างเราๆ ตื่นเต้นและลุ้นไปเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเคสอุบัติเหตุที่เฮโลมาพร้อมเพรียง การจดจ่อรอดูวิธีการตัดสินใจของ อ.คิม การโชว์ความสามารถของหมอใหม่ การไม่ยอมลดละความพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง คำสอนต่างๆ ของ อ.คิม รวมไปถึงการสนับสนุนต่างๆ ของคนในโรงพยาบาลทลดัมนี่เอง ที่ทำให้เอาคนดูอยู่หมัด ไปไหนไม่ได้กับซีรีส์ภาคต่อนี้

คิมซาบู หมอและครูที่สุดแสนโรแมนติก

คิมซาบู หรือ อ.คิม หมอประหลาดที่ทำทุกอย่างในชีวิตด้วยความถูกต้อง เขามีวิธีการสอนแบบไม่ได้สอนกับคนที่เขาอยากสอน แต่กับบางคนที่สอนยังไงก็ดูจะเข็นไม่ขึ้น การสอนตรงๆ ก็คงดีกว่า แต่ทั้งหมดทั้งมวลทุกวิธีการก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราคนดูยิ่งเคารพในตัวละครตัวนี้ การได้รับเกียรติจากนักแสดงระดับอาวุโส ที่ปกติมักจะรับงานภาพยนตร์เสียส่วนใหญ่อย่างนักแสดง ฮันซอกกยู มารับบทนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์แบบ ด้วยความสามารถด้านการแสดง เราจึงได้เห็นมิติของ อ.คิม ในหลายรูปแบบ ทั้งจริงจัง ทั้งขี้เล่น หรือแม้แต่ดูกวนโอ๊ยก็มีให้เห็นทั้งหมด เสียดายที่ภาค 2 นี้ อ.คิมไม่ได้โชว์ทักษะการมัดไหมเย็บแผล ซิกเนเจอร์จากภาคแรกให้ลูกศิษย์ได้อึ้ง ทึ่ง ว้าวกัน

และสำหรับผู้เขียน ได้ยินเสียงของนักแสดง ฮันซอกกยู ทีไรนี่แบบ เฮ้อ เสียงหล่อมากค่ะ ยิ่งฉากตะโกนโวยวาย โอ๊ย…เสียงยิ่งหล่อคูณแปดเข้าไปอีก ทำให้ยังไม่พร้อมเรียก “ลุง” แบบที่หลายคนเรียกกันเลย ถึงแม้พี่เขาจะมีอายุ 57 ในปีนี้แล้วก็ตามที

ความรักที่อิ่มเอม อบอวลทั่วทั้งโรงพยาบาล

เปิดภาคแรกของ Dr. Romantic ซีนตะลึงคงหนีไม่พ้น จูบใต้แสงส้มอันดูดดื่มของหมอคังกับหมอยุน แต่ภาค 2 หลายคนต้องลุ้นกันเยอะหน่อยกว่าจะได้เจอ Kiss Scene แต่ละที ดูยากเย็นกว่า แต่ด้วยเรื่องราวที่ปูทางมาแบบนี้ และย้ำว่านี่คือ ซีรีส์หมอ เพราะฉะนั้น ถือว่า Kiss Scene เป็นแค่น้ำจิ้มก็น่าจะดีกว่าตั้งใจรอดู (แต่ยังไงก็รอดูอยู่ดีแหละ ฮา)

ในภาค 2 นี้ นอกจากคู่ 2 หมอ ยังมีคู่ใหม่ พยาบาลอึนทักกับหมอยุนอารึมที่น่ารัก คู่ที่ไม่หวือหวา ค่อยเป็นค่อยไป มีหึงบ้าง งอนบ้างให้รู้ว่าแอบรักกันอยู่ กลายเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ดูน่ารักไปเสียหมด

และนอกจากความรักระหว่างชาย-หญิง Dr. Romantic ยังทำให้คนดูได้รู้สึกถึงความรักในอีกหลายรูปแบบ ทั้งความรักในองค์กร ความรักและเคารพในตัวบุคคล ความรักระหว่างผู้ป่วย โดยรวมทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีกลิ่นอายความรักและโรแมนติกตลบอบอวลอยู่ในทุกตอนที่ติดตามจริงๆ

มีพบก็ต้องมีพรากจากลา กฎของชีวิตที่ไม่มีใครหนีพ้น

ฉากเรียกน้ำตาที่สุดของเรื่องคงหนีไม่พ้น 2 ฉากใหญ่ ในฉากแรกที่หลายคนพูดถึงก็คือ ฉากที่แม่ต้องสูญเสียลูกสาวอย่างกะทันหันและต้องยอมรับให้ได้พร้อมการบริจาคร่างกายของลูกสาวในที่สุด ฉากที่ดูยิ่งใหญ่ในทีนี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะจำนวนนักแสดงในฉาก แต่รวมไปถึงความรัก ความเสียสละที่มันดูยิ่งใหญ่ การจากลาที่แสนทรมานใจ เรียกน้ำตาจากใครหลายคนได้ รวมถึงผู้เขียนด้วย

และในตอนจบของซีรีส์ภาค 2 การจากไปของ ผอ.โรงพยาบาลคนเก่าที่เป็นที่รักของทุกคน ก็กลายเป็นอีกหนึ่งฉากเศร้าสะเทือนใจ เรียกน้ำตาแบบไม่ต้องคิดอะไร มีเท่าไหร่ไหลประหนึ่งสายน้ำ ต้องขอชื่นชมนักแสดงทุกคนที่ร่วมฉากนี้ แสดงซีนอารมณ์ได้ดีกันจริงๆ

เมื่อเอาตัวประกอบมารับบทนำใน 1 ซีน คุณจะมองชีวิตเขาเปลี่ยนไป

ยังโฮจุน ตัวประกอบที่คนดูสุดแสนจะเอือมระอา ได้โชว์ฉากสำคัญในตอนจบ ต้องยอมรับว่าเราคนดูไม่น่าจะมีใครแคร์กับตัวละครตัวนี้ เพราะสร้างมาให้น่ารำคาญและดูเหมือนไม่ใช่หมอ แต่เมื่อมาถึงการระเบิดอารมณ์เปิดใจกับ ผอ.พัค เมื่อผู้เขียนลองคิดดูถึงที่มาที่ไปของตัวละคร มองในมุมเดียวกับเขาดูบ้าง ก็ทำให้รู้สึกและเข้าใจว่า ทำไมตัวละครตัวนี้ถึงต้องแสดงออกมาแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ ที่แท้เขาก็มีจุดประสงค์ในชีวิตเหมือนคนที่รับบทนำนั่นแหละ เพียงแต่เรามองข้ามเขาไปเท่านั้นเอง กลายเป็นฉากที่ตัวประกอบได้เป็นตัวนำบอกเล่าเรื่องราวในฉากเดียวจบครบทุกกระบวนการ (ชาบูนักเขียนบท)

2 หมอ เด็กปั้นใหม่คนล่าสุด ความภาคภูมิใจของ อ.คิม

ถ้าจะไม่พูดถึง 2 หมออย่าง หมอซออูจินกับหมอชาอึนแจ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้เขียนแล้วถือเป็นการได้ดู อันฮโยซอบ แสดงเป็นเรื่องแรก แต่รู้จักและผ่านตามาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าแสดงได้ดี และเรื่องนี้ดูจะหล่อกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาจริงๆ ทั้งบทเองก็ส่งให้เขายิ่งดูเท่ มีความสามารถ ฉลาด ดูเข้าถึงยาก และซึนกับนางเอกแต่ก็แอบใจดีกับเธอกว่าใครๆ แล้วกว่า หมอซออูจิน จะยิ้มได้แต่ละที ก็ต้องรอกันหน่อย เวลายิ้มที มือผู้เขียนก็เผลอแคปไปหลายทีอยู่เหมือนกัน บังคับมือไม่ได้เลยจริงๆ สิพับผ่า

ด้านการแสดงของ อีซองคยอง ในบทหมอ ชาอึนแจ ที่หลายคนบ่นกันอุบว่าเป็นบทนางเอกที่น่ารำคาญ ซึ่งผู้เขียนรู้สึกว่า ไม่ได้ต่างจากภาคแรกเท่าไหร่นักที่วางบทให้ ซอฮยอนจิน แนวๆ นี้เช่นเดียวกัน พูดมาก ไม่ยอมคน จริงจังกับงานจนได้ฉายาว่า วาฬคลั่ง แต่บทชาอึนแจ อาจจะดูมะล่องก่องแก่ง ง๊องแง๊งๆ ขี้แพ้จนทำให้หลายคนรำคาญ ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของบทบาท ส่วนเรื่องการแสดง ถือว่ายอมรับได้ว่า อีซองคยอง พลิกจากนางแบบแล้วก้าวมาเป็นนักแสดงได้อย่างดี มีความสามารถมากกว่าที่คิด จากที่ติดตามมาหลายเรื่อง บทร้องไห้เล็กๆ ก็ส่งถึงคนดูได้ ดูไปดูมา ก็รู้สึกเอาใจช่วยให้เธอข้ามผ่านปัญหาต่างๆ ไปให้ได้ อันนี้ถือว่าแสดงดี ต้องชื่นชมจริงๆ

ไปอยู่ที่ไหนมา หมอยุนอารึม อัจฉริยะด้านการยิ้ม

ภาค 2 นี้ ต้องขอยกความน่ารัก สดใสให้กับนักแสดง โซจูยอน ที่รับบท หมอยุนอารึม ในวัย 28 ปี ในชีวิตการแสดงของเธอ เคยรับเล่นหนังแค่ 2 เรื่อง ซีรีส์แค่ 2 เรื่อง และ Dr. Romantic 2 ก็เป็น 1 ใน 2 เรื่องนั้นด้วย

ทั้งที่มีผลงานไม่มาก เรียกว่ายังใหม่ แต่กลับแสดงได้ดี มีความเป็นธรรมชาติและน่ารักสมบทบาทเป็นอย่างมาก ทุกฉากที่มีเธอดูสดใสไปหมด ที่สำคัญยิ้มได้น่ารักจริงๆ สมกับที่แฟนเธอมอบฉายาให้ว่าเป็น “อัจฉริยะด้านการยิ้ม”

รอคอยให้เธอมาเป็น คิมซาบู 2 คนต่อไปใน 20 ปีข้างหน้าอยู่

หมอโดอินบอม สัญญาต้องเป็นสัญญานะ

ใน Dr. Romantic 2 ได้มีนักแสดง ยังเซจง มารับเชิญในบทเดิมจากภาคแรก ในบทบาท หมอโดอินบอม ซึ่งสามารถเรียกเรตติ้ง คลายความคิดถึงคุณหมอกันไปได้แค่โผล่มาเป็นเวลาไม่นาน แล้วคุณหมอก็ได้ทิ้งท้ายไว้กับหมอซออูจินก่อนกลับไปโรงพยาบาลกอแดด้วยตามภาพ

ดังนั้น เราจึงขอถือว่า หมอโดอินบอม ให้สัญญาแล้วว่าจะกลับมา สัญญาต้องเป็นสัญญานะคะ ให้เวลาไปเข้ากรมฯ รับใช้ชาติและกลับมาแสดงต่อในภาค 3 เถิด

สุดท้ายก็กลายเป็นเด็กคิมซาบูกันหมด

ไม่ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองแน่แค่ไหน เมื่อมาอยู่กับ อ.คิม ที่มีความน่าเคารพ การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีหลักการของเขาในทุกเรื่อง ความโรแมนติกที่คุณอาจจะงงและสงสัย แต่ในที่สุดทุกอย่างที่ อ.คิม กระทำก็ส่งผลให้คุณปฏิเสธการยอมรับในตัวเขาไม่ได้ ตัวละครต่างๆ จึงจบลงที่การให้ความเคารพในตัว อ.คิม และสุดท้ายก็หนีไม่พ้นกลายเป็นเด็ก อ.คิมกันไปหมด

ความสำเร็จที่ไม่ใช่มาง่ายๆ ของซีรีส์ภาคต่อ

หลายคนน่าจะเคยเห็นความล้มเหลวของภาพยนตร์หรือซีรีส์ภาคต่อหลายต่อหลายเรื่องมาแล้ว บางเรื่องถึงกับมีคนออกมาพูดว่า ไม่น่าทำภาคต่อ น่าจะมีภาคเดียวก็พอแล้ว แต่นั่นย่อมไม่ใช่กับซีรีส์ Dr. Romantic นี้ เพราะในภาค 2 สามารถทำเรตติ้งได้ดีตั้งแต่ต้น จนถึงตอนจบก็สามารถทำเรตติ้งได้สูงสุดเช่นเดียวกับภาคแรกที่ได้เรตติ้งสูงสุดในตอนจบ

แตกต่างกันตรงที่ภาคแรก จบที่ 20 ตอน ทำเรตติ้งสูงสุดที่ 27.6% ส่วนภาค 2 จบที่ 16 ตอนทำเรตติ้งสูงสุดไว้ที่ 27.1% จึงทำให้แอบสงสัยว่า ถ้าจบที่ 20 ตอนแบบภาคแรก เรตติ้งอาจจะไปแตะ 30% ก็ได้ ใครจะไปรู้

ถึงตอนนี้ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ก็ต้องจดบันทึกไว้เลยว่า Dr. Romantic 2 ได้กลายเป็นซีรีส์ช่องหลักที่ได้เรตติ้งสูงที่สุดแห่งปี 2020 ในอันดับ 1 และของช่อง SBS ซึ่งไม่รู้ว่าอีก 10 เดือนหลังจากนี้จะมีซีรีส์เรื่องไหนทำเรตติ้งได้แซงเรื่องนี้หรือไม่ ต้องมาติดตามไปด้วยกัน (KZabs เรารายงานเรตติ้งซีรีส์ทุกเช้า ทั้งใน Facebook และ Twitter กดติดตามได้ท้ายสุดของบทความนี้ ขอพื้นที่โฆษณานิ๊ดนะคะ)

ความคาดหวังใน Dr. Romantic ภาค 3

ในเมื่อประสบความสำเร็จขนาดนี้ แน่นอนว่าเนติเซนก็ได้มีการเรียกร้องให้พีดีทำ Dr. Romantic ภาค 3 ซึ่งถึงตอนนี้ที่ติดตามข่าวดู ก็ยังไม่มีการยืนยันใดๆ เป็นเพียงความคาดหวังของทั้งนักแสดงและผู้ชมที่อยากให้มีการสร้างภาค 3 ซึ่งเราคงต้องมาติดตามดูกันว่า จะมีภาค 3 เกิดขึ้นได้หรือไม่ และไม่ว่าจะต้องรอเหมือนเดิม 3-4 ปี ก็จะรอ เมื่อถึงวันนั้น ฮันซอกกยู ในบท อ.คิม คงมีอายุ 60 ปีพอดีด้วย

สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า Covid-19

เชื่อว่าถ้าซีรีส์มีกำหนด 20 ตอนจบ เราอาจจะได้เห็นฉากแสดงสถานการณ์ปัจจุบันของโรคระบาด Covid 19 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของมนุษย์โลก และที่เกาหลีใต้ยิ่งกำลังร้ายแรงหนักขึ้นทุกวันจนกลายเป็นคำเตือนระดับชาติ ซึ่งใน Dr. Romantic ภาคแรกได้เคยหยิบยกสถานการณ์โรคระบาดอย่างซาร์ส (SARS) เข้ามาเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วย ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า ฉากนี้ทำได้สนุก ตื่นเต้น ลุ้นตามเป็นอย่างมาก

ใครที่อยากอ่านรายละเอียด สามารถดูได้จากบทความนี้: 4 ซีรีส์เกาหลีกับซีนโรคไวรัสระบาด ที่เหมือนไวรัสโคโรนา Covid 19 ในตอนนี้

และจากเหตุการณ์ความรุนแรงของ Covid-19 ก็ทำให้ทีมงานและนักแสดงจำใจต้องยกเลิกทริปท่องเที่ยว 4 วัน 3 คืนที่ทางช่องมอบให้จากผลงานความสำเร็จของซีรีส์ไปโดยปริยาย

สุดท้ายอยากฝาก

สุดท้ายนี้อยากบอกรักนักแสดงทุกคน ทีมงานทุกคน ผู้กำกับ คนเขียนบท ยิ่งนักแสดง ฮันซอกกยู ในบท อ.คิม นี้รักมากมาย ความรู้สึกเวลาดูซีรีส์ตอนจบแล้วมันอิ่มเอม ได้ทุกอารมณ์ ได้ข้อคิดหลายๆ อย่าง มันดีจริงๆ อยากขอบคุณที่ผลิตผลงานดีๆ แบบนี้ออกมา และจะรอดูภาค 3 ขอให้มีเถอะ Fighting!

<<คลิกที่นี่ เพื่อรับชม Dr. Romantic 1 ซับไทย จาก Viu>>

<<คลิกที่นี่ เพื่อรับชม Dr. Romantic 2 ซับไทย จาก Viu>>

คุณผู้อ่านล่ะคะ ชอบอะไรในซีรีส์เรื่องนี้กันบ้าง กระซิบบอกเรากันหน่อยนะคะ 😀

อย่าลืมกดติดตาม KZabs ได้จากช่องทางต่างๆ ด้านล่างนี้

Facebook: @KZabsTalk : KZabs เกาหลีแซ่บหลาย
Twitter: @KZabsTalk
Instagram: @KZabsTalk 
Website: www.kzabs.com