Cross ซีรีส์ดีที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
Cross มีพล็อตหลักที่กล่าวถึง การซื้อขายอวัยวะเถื่อนในวงการแพทย์ “คังอินกยู” หมอหนุ่มที่มีความแค้นฝังลึกอยู่ในใจกว่า 15 ปี กับเหตุการณ์ที่ทำเขาต้องสูญเสียพ่อไปอย่างโหดร้ายในวัยเด็ก และแค้นนี้ต้องได้รับการชดใช้
Cross ออกอากาศทางช่อง tvN จำนวน 16 ตอน เปิดตัวด้วย Rating 4.601% และจบลงด้วย Rating 5.034% ซึ่งไม่ว่าไม่เลวเลย สำหรับซีรีส์สายโหดเช่นนี้ ผลงานการกำกับโดย “ชินยงฮวี” ที่เคยฝากผลงานสายโหดจากเรื่อง Tunnel มาแล้วเมื่อปี 2017 ทางช่อง OCN
ใครผิดก็ต้องชดใช้ ดำคือดำ ขาวคือขาว ไม่มีสีเทาสำหรับ “Cross”
เรื่องนี้ได้แสดงให้เราเห็นว่า ทุกตัวละครที่กระทำความผิดต้องได้รับโทษ และชดใช้กรรมทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่พระเอก “คังอินกยู” ที่มีชีวิตน่าสงสารตั้งแต่วัยเด็ก แต่ทางเดินที่เขาเลือกตั้งแต่แรกมันผิด การใช้ศาลเตี้ยตัดสินและลงโทษผู้กระทำผิดด้วยตัวเอง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใด อย่างไรเขาก็ผิด สีดำอย่างไรก็คือสีดำ เมื่อทำผิดก็ต้องชดใช้โทษ ไม่มีใครช่วยแต่งแต้มสีขาวให้ความผิดของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาได้ ประเด็นนี้ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับผู้เขียน ต้องยกนิ้วให้นักเขียนบทที่กลับมาเก็บรายละเอียดตรงนี้ในตอนจบได้เป็นอย่างดี
การแสดงฝีมือขั้นสุดยอดของ “โกคยองพโย”
Cross นำแสดงโดย โกคยองพโย ผู้รับบทพระเอกเรื่องที่ 2 ของตัวเอง กับบทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงที่ผ่านมา ผู้เขียนขอชื่นชมฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก จากที่แสดงดีอยู่แล้วตั้งแต่บท “ซอนอู” ใน Reply1988 ที่ทำให้หลายคนสามารถจดจำเขาได้ ข้ามมาถึงเรื่อง Cross โกคยองพโยสามารถทำให้เราเชื่อได้ว่า “คังอินกยู” เป็นคนที่มีความแค้นติดตัวมาถึง 15 ปี อารมณ์ ความโกรธแค้น การถลึงตาแบบสุดกู่ให้ความรู้สึกแทบจะฉีกเนื้อของผู้ร้ายออกเป็นชิ้นๆ
ไม่เว้นแม้แต่อาการตาลอย หลังจากได้รู้ความจริง ในบางทีที่เจอสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ถือเป็นซิกเนเจอร์หนึ่งของโกคยองพโยในเรื่องนี้เลย ก็ในเมื่อชีวิตที่ต้องจมปักอยู่กับความแค้นในรูปแบบที่น้อยคนนักจะเจอ มันไม่ได้มีคู่มือให้ศึกษาว่าต้องทำอย่างไรกันต่อ ตัวคนเดียว แค้นคนเดียว ไม่มีใครสนับสนุน ต้องฝ่าฟันทุกอย่างด้วยตัวเอง อาการงงงวยจากบางสิ่งที่เจอก็ทำให้เขาแสดงอาการตาลอย หรืออาการหลืบตาไปกับเหตุการณ์ที่เป็นไปอย่างที่คิด จุดนี้ถือว่า โกคยองพโย ทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก
“จอนโซมิน” ลืมยัยนกแก้วพูดมากในรันนิ่งแมนไปได้เลย
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก “จอนโซมิน” จาก รันนิ่งแมน ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เรื่องนี้จึงถือเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ผู้เขียนได้ดูการแสดงบทนำของจอนโซมินแบบเต็มๆ และต้องถือว่า เธอเป็นนักแสดงที่มากฝีมือคนหนึ่งเลย ด้วยชินกับความเฮฮาร่าเริง 4 มิติของเธอจากรันนิ่งแมน แม้บทหมอโกในเรื่องนี้จะไม่หวือหวา ที่ต้องโชว์การแสดงแบบจัดเต็ม แต่การเล่นแบบพอดีของจอนโซมินนี้ ต้องถือว่าสอบผ่านสุดๆ ในสายตาของผู้เขียน
“น้อยแต่เยอะ”
การแสดงของนักแสดงเรื่องนี้ ถือได้ว่า ไม่ต้องเยอะ แต่ดูเยอะ แต่ละบทบาทดำเนินไปอย่างมนุษย์ปกติที่เราเห็นได้ในชีวิตประจำวัน อารมณ์เกรี้ยวกราดไม่จำเป็นต้องเอ่อล้นด้วยโอเว่อร์แอคติ้ง อารมณ์โกรธที่ปะทุแรงของ “คังอินกยู” ก็จะถูกเบรคดาวน์ด้วยความดีในตัวเองเสมอ ความสะใจของคนร้าย “คิมฮยองบอม” ก็เป็นอาการที่เราเห็นได้ในคนร้ายตัวจริงที่ไม่มีการสำนึกผิดอยู่ในใจแม้เพียงเสี้ยวเดียว
ความผิดหวังในตัวหัวหน้าศูนย์
หลังจาก EP11 ความอึดอัดในการดูซีรีส์ก็ต้องเกิดขึ้น ถ้าใครติดตามข่าวจากเกาหลีใต้ในช่วงนี้ ก็จะได้เห็นโครงการรณรงค์ #MeToo ว่าด้วยเรื่องการคุกคามทางเพศของคนใหญ่คนโตในแวดวงบันเทิงแดนกิมจิ นักแสดงชายรุ่นเก๋า ถูกเปิดเผยรายชื่อเรียงหน้ากันออกมาเรื่อยๆ จนคาดไม่ถึง ไม่เว้นแม้แต่นักแสดง “โจแจฮยอน” ที่รับบทหัวหน้าศูนย์ฯ ซึ่งผู้เขียนเองชื่นชอบในฝีไม้ลายมือการแสดงของเขามาตั้งแต่ซีรีส์เรื่อง Punch ทว่า ทั้งหมดก็ต้องมลายหายไป หลงเหลือไว้เพียงความอึดอัดใจกับมุมกล้องที่ไม่สามารถจับหน้าตรง เห็นได้อย่างมากก็ 1 ใน 6 ของพื้นที่จอ แม้ในตอนท้ายจะมีหลุดมาให้เห็น 1 ใน 3 ของจอก็ตามที ทำให้อรรถรสในการดูนั้นเสียไปอย่างคาดไม่ถึง
บทจะโง่ ก็โง่ซะ
หมอคังอินกยู ผู้มีความฉลาดคับคั่งอยู่ในตัว และมีจิตใจมุ่งมั่นอยู่กับการล้างแค้นเพียงอย่างเดียว การวางแผนการทุกอย่างแต่เพียงลำพัง โดยไม่ต้องพึ่งที่ปรึกษาราคาแพงใดๆ ถึงเวลาจะโชว์โง่ก็โง่ซะ.. บทที่สัมผัสได้ถึงความโง่นั่นก็คือ ตอนต่อสู้กับคิมฮยองบอมที่สุสาน หมอที่ควรจะรู้เรื่องกายวิภาคเป็นอย่างดี ผู้ร้ายไม่ได้บาดเจ็บขนาดจะลุกหนีไม่ได้ แต่หมอคังกลับหันหลังและปล่อยให้ผู้ร้ายโจมตีกลับได้อย่างง่ายดาย จนทำให้ความสามารถพิเศษที่ผู้ร้ายมอบให้ ก็เป็นผู้ร้ายเองที่ยึดคืน หรือจะเข้าทำนอง ใครทำ คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ (เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แล้ว)
คาใจ ต้องการคำเฉลย
โถเก็บทรัพย์สินของ คิมฮยองบอม ใต้สุสานแม่ที่พระเอกของเราโกยออกมาหมดนั้น แท้จริงแล้ว หมอคังเอาไปซ่อนไว้ตรงไหนก่อนจะขนไปบริจาค ใครทราบ วานโทรบอกที
หัวใจพ่อ ต้องอยู่ต่อ
คังอินกยู แม้จะมีความแค้นฝังรากลึกอยู่อย่างไร แต่ในใจก็มีเมตตามากเท่านั้น การรู้จักช่วยเหลือและเห็นใจคนอื่น เป็นความดีที่พ่อแท้ๆ และพ่อบุญธรรมปลูกฝังมา สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาไม่ได้ดำดิ่งจนทำผิดไปมากกว่าที่คิดเอาไว้
และความยิ่งใหญ่ที่สุดในใจเขาก็คือ การรู้จักให้อภัย หมอโก (จอนโซมิน) แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถให้อภัยหมอซน ลูกสาวของฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอได้ ในทางกลับกัน ความแค้นที่ฝังรากลึกในใจของหมอคังมานานกว่า 15 ปี กลับถูกความดีในตัว ยึดเอา “หัวใจพ่อ” มาเป็นที่ตั้ง ไม่ว่า “หัวใจพ่อ” จะอยู่กับใคร แต่ถ้าคนนั้นทำให้หัวใจพ่อเต้นต่อได้ เขาพร้อมช่วยเหลือและให้อภัย
The End จบได้ดี ไม่มีที่กังวล
สำหรับการปรับเปลี่ยนบทที่ต้องเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นักแสดง “โจแจฮยอน” (หัวหน้าศูนย์ฯ) นั้น ต้องชื่นชมกับทีมนักเขียนบท ที่ยังคงรักษาเส้นเรื่องไว้ได้ดี มีเก็บตกการกระทำผิดเริ่มต้นของหมอคัง กระจายการชดใช้ความผิดให้คนร้ายในเรื่องไม่มีเหลือ ในส่วนของหมอซน และหมออี จากและจบกันแบบนี้ ถือว่าดีแล้วในความคิดของผู้เขียน การจะครองคู่กันด้วยความรู้สึกของคนที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกัน ลูกของผู้กระทำผิดทั้งสอง การเข้าใจกันเกินไป ก็หาใช่เรื่องที่จะน่าภิรมย์นักในชีวิตที่เหลืออยู่
ให้คะแนน Cross
สำหรับผู้เขียนเอง ขอให้คะแนนเรื่องนี้อยู่ที่ 7.5/10 หักคะแนนมุมกล้องหัวหน้าศูนย์ เข้าใจว่าจำเป็น แต่ทำให้เสียอรรถรสไปมากมายจริงๆ และขอหักคะแนนในส่วนการเดินเรื่องที่ยังไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ผู้ร้ายแหกคุกได้ง่ายดายเกินไป (เคยดู Prison Break มั้ยคู๊ณณ) และการเดาตอนจบที่ไม่ยาก
มีใครแอบหวัง Love Line จากเรื่องนี้กันบ้าง ยกมือขึ้น
ส่วนตัวผู้เขียนเองรู้อยู่เต็มอกตั้งแต่ต้นว่าซีรีส์นี้สายโหดแน่นอน แต่ในใจก็มีแอบหวังเล็กๆ แบบอยากปลอบใจพระเอกไง อยากให้ชีวิตหมอคังของเรามีสีสัน ปันรอยยิ้มให้คนรอบข้าง มีชีวิตที่เหลือเจือความสุขบ้าง ได้มีคนเข้าใจและพูดคุย ให้เขาได้หายใจเข้าออกอย่างทั่วท้องเวลาที่อยู่กับคนพิเศษ ยิ้มไปกับโลกสีชมพูอย่างมีความสุข
แน่นอนว่า ถ้า Cross จะมีตอนพิเศษ EP16.5 รับรองว่า หมอคังอินกยู ต้องได้กับหมอโกจีอิน อย่างไม่ต้องห่วง ดูจากความสัมพันธ์หลังเมฆหมอกแห่งความเลวร้ายในชีวิตหมอคังได้ผ่านพ้นไป เมฆปุยขาวและแสงสว่างก็เริ่มเข้ามาในชีวิต แม้ถ้าฟังจากบทสนทนาระหว่างหมอคังกับหมอโก จะเห็นได้ว่า ยังใช้ภาษาในระดับสุภาพของชนชาวเกาหลีอยู่ แต่การสกินชิพนั้น เริ่มเป็นไปอย่างธรรมชาติอย่างชายหญิงที่อยู่ใกล้ชิดกัน เริ่มมีจิกกัด เถียงกันเล็กๆ แบบไม่มีเขินอาย นี่ถ้าน้องลูกสาวคนขับรถชงอีกสักหน่อย เพื่อนร่วมงานช่วยกันพายอีกสักนิด รับรองต้องได้เสียกันเป็นแน่แท้ 55
พระเอก “โกคยองพโย” แอบทำท่า Cross พร้อมชูสองนิ้ว อิอิ
ให้ 3 คำ “พ่อ – ของ – ลูก”
รอยยิ้มนี้กระชากหัวใจเค้าไปหมดแล้ววว
ใครที่ชื่นชอบสายโหดอย่าง Cross มาเมาท์กับออนนี่ได้นะคะ
รักนะทุกคน XO XO / ออนนี่แซ่บส์ แห่ง KZabs เกาหลีแซ่บส์หลาย 🙂
