อีจองแจ เผยเบื้องหลังการเขียนบทและกำกับ Hunt หนังเรื่องแรกในชีวิต

อีจองแจ เผยเบื้องหลังการเขียนบทและกำกับ Hunt หนังเรื่องแรกในชีวิต

“อีจองแจ” จาก Squid Game กับเส้นทางความสำเร็จแบบก้าวกระโดดสู่เส้นทางระดับโลกและก้าวสำคัญครั้งแรกในบทบาท “ผู้กำกับ” อุทิศตัวตนกว่า 4 ปี สู่ปฏิบัติการล่าสะเทือนคาบสมุทรในหนังแอ็กชัน-สายลับสุดเดือดแห่งปี  Hunt ล่าคนปลอมคน”

 ปฏิบัติการล่าสะเทือนคาบสมุทรไปกับ “อีจองแจ”

“อีจองแจ” นักแสดงเกาหลีชื่อดังผู้ก้าวขึ้นมาสู่ความเป็นนักแสดงระดับโลก หลังจากฝากผลงานในซีรีส์ชื่อดังอย่าง Squid Game ปี 2021 ด้วยความสามารถที่โดดเด่นทำให้เขาคว้ารางวัล SAG Awards รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัล Emmy Award ทำให้เขากลายเป็นที่กล่าวขานและถูกยกให้เป็นนักแสดงคุณภาพระดับเอลิสต์จนเป็นที่รู้จักในระดับสากล

ในปี 2022 ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ กับการขึ้นแท่นเป็น ผู้กำกับ เขียนบท ครั้งแรก รวมถึงแสดงนำใน ผลงานแอ็กชัน-สายลับสุดเดือดแห่งปี Hunt ล่าคนปลอมคน” พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์ พาผลงานเรื่องแรกของเขาไปฉายโชว์ในรอบ Midnight Screen ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด ซึ่งผู้กำกับน้อยคนนักที่จะสามารถมาอยู่ในจุดนี้ได้ โดยหลังจากฉายภาพยนตร์จบเขายังได้รับเสียงปรบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 7 นาที พร้อมกวาดคำชม มาอย่างล้นหลาม เมื่อภาพยนตร์เข้าฉายในประเทศเกาหลียังกระแสแรงจนเปิดตัวอันดับ 1 บ๊อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีมีผู้ชมกว่า 2 ล้านคนอีกด้วย

เส้นทางกว่า 30 ปีของเขาเริ่มจากผลงานเรื่องแรกตั้งแต่ปี 1993 และสามารถคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ได้จาก The Young Man ต่อด้วย Sandglass, City of The Rising Sun จนมาถึงผลงานภาพยนตร์รักโรแมนติกอย่าง Il Mare ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Housemaid, The Thieves, New World, The Assassination รวมถึงหนังบล็อกบลัสเตอร์อย่าง Along with the Gods, Deliver Us From Evil และซีรีส์สุดฮ็อต Squid Game ส่งให้เขาได้รับโอกาสมากมาย รวมทั้งมีประสบการณ์ที่ยาวนานเป็นสิบปี จนก้าวเข้าสู่อีกสเต็ปของการทำงานที่นอกเหนือจากงานแสดง

และผลงานใหม่ของเขากับครั้งแรกของการกำกับภาพยนตร์ เขียนบท และแสดงนำในหนัง แอ็กชันสายลับสุดเดือด “Hunt ล่าคนปลอมคน” ซึ่งทำให้อีจองแจถึงขั้นนอนไม่หลับทั้งคืน “อีจองแจ” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการกำ กับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาว่า

ความรู้สึกที่ HUNT ได้ถูกเชิญอย่างเป็นทางการในมิดไนท์ สกรีนนิ่ง งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 75

มีหลายคนที่มองเห็นความสนุกและประเด็นของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เราร่วมแรงร่วมใจสร้างกันขึ้นมาก็ต้องขอบคุณทั้งเหล่าทีมงานและนักแสดงทุกท่านมาก ๆ ครับ ในตอนท้ายของการฉายภาพยนตร์ ผมทั้งตกใจและเขินที่ได้รับเสียงปรบมือนานที่สุดที่เคยได้รับในชีวิต

HUNT เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับอะไร?

โปสเตอร์หนังเกาหลี Hunt เวอร์ชั่นภาษาไทย

HUNT เป็นภาพยนตร์แอ็กชันสายลับชิงไหวชิงพริบกัน มันเล่าเรื่องของคนที่ต้อง ทำอะไรขัดกับความเชื่อและหลักการของตัวเอง เรื่องราวของการตามหาสายลับที่แฝงตัวอยู่ในองค์กร KCIA โดยผมรับบท พัคพยองโฮ และ คิมจองโด รับบทโดย จองอูซอง ระหว่างการค้นหาตัวสายลับทำให้ทั้งสองคนเกิดความสงสัยในกันและกันและต้องมา เจอกับคดีลอบสังหารคนสำคัญเบอร์หนึ่งของเกาหลี ทำให้เกิดเรื่องพลิกล็อกและเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ

ถ้าจะให้แนะนำตัวละคร พัคคยองโฮที่รับบทในเรื่อง HUNT ในฐานะนักแสดง?

ตัวละคร พัคพยองโฮ ที่ผมรับบทในเรื่อง HUNT ในฐานะหัวหน้าทีมหน่วยข่าวกรองต่างประเทศเป็นคนที่ใช้เหตุผล แล้วก็เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่ห่วงใยเพื่อนร่วมงานแต่พอได้รู้ข่าวว่ามีสายลับอยู่ในองค์กรก็ต้องมาระแวงเพื่อนร่วมงานไปจนถึงถูกสงสัยว่าตัวเขาเองก็คือสายลับแต่ก็ยังพยายามสุดตัวเพื่อจะตามหาสายลับที่ซ่อนอยู่ในองค์กรครับ

คุณแยกระหว่างพยองโฮที่ทำงานให้ KCIA มา 13 ปี กับอดีตทหารบกอย่างจองโด ผ่านเครื่องแต่งกาย และทรงผมได้อย่างไร?

หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยตัวละครชาย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ KCIA ดังนั้นทั้งชนิดเสื้อผ้าและสีสันจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ทีมเสื้อผ้าเตรียมเนกไทวินเทจ และเครื่องประดับจากยุคนั้นไว้เพียบ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครออกมา พวกเขาช่วยกันออกแบบเครื่องแบบของทหารไทย, ตำรวจ, เจ้าหน้าที่รัฐ และคนจากกองทัพ

คาแรกเตอร์ของตัวละครใน Hunt คุณวางแต่ละคนเป็นแบบไหน

5 นักแสดงนำ Hunt จากซ้ายมือ จอนฮเยจิน จองอูซอง อีจองแจ ฮอซองแท โกยุนจอง
5 นักแสดงนำ Hunt จากซ้ายมือ จอนฮเยจิน จองอูซอง อีจองแจ ฮอซองแท และ โกยุนจอง

ผมอยากให้ตัวละครทุกตัวมีคุณค่า จองโด (จองอูซอง) ผมอยากให้เขาเริ่มจากการเป็นคนเยือกเย็น ไปจนถึงที่เขาบันดาลโทสะแบบไม่เลือกหน้าในช่วงท้าย จูคยอง (จอนฮเยจิน) เป็นตัวโจ๊กตัวเดียวในเรื่อง แต่เธอจำเป็นต่อจุดหักมุมของเรื่องมาก ชอลซอง (ฮอซองแท) เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของจอมทรราช ผมอยากให้เขาเป็นบัวใต้ตม ไม่เคยรู้ตัวว่าโดนล้างสมองมาตลอด ยูจอง (โกยุนจอง) ไม่ได้โผล่มาบ่อย แต่เธอเป็นตัวละครที่ใกล้ชิดกับตัวละครปริศนาของเรื่องที่สุด เธอขยะแขยงในการกระทำของคนรุ่นก่อน แต่เธอได้คำตอบของชีวิตที่เฝ้าตามหาจากพยองโฮ

HUNT มีส่วนผสมของแอ็กชันดราม่าสายลับ แต่ยังมีความเป็นสงคราม จิตวิทยาที่สองตัวละครนำ ทำใส่กัน ตลอดทั้งเรื่อง คุณถ่ายทอดประเด็นดังกล่าวลงในหนังได้อย่างไร?

มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้พยองโฮและจองโดเจอกับเรื่องคอขาดบาดบาดตายเสมอ ให้พวกเขาห้ำหั่นกันตลอด เมื่อเจตนาที่แท้จริงของพวกเขาถูกเปิดเผยในองก์ที่สามของเรื่อง ประเด็นมันจะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น การผูกเรื่องในองก์ แรกและองก์ที่สองมันยากพอสมควร

ระหว่างการกำกับเรื่อง HUNT ให้ความสำคัญกับจุดไหนบ้าง?

ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องมีความสนุกก็จริง แต่ว่าผมคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พูดคุย กับหลายๆคนเกี่ยวกับ เรื่องราวต่างๆถึงแม้จะนำเรื่องที่เกิดในยุค 80 ขึ้นมาทำ แต่ผมคิดว่ายุค 80 กับตอนนี้มีจุดที่ไม่แตกต่างกันอยู่ ทั้งเรื่องราวในจุดเหล่านั้น ทั้งความคิดอื่น ๆ ที่ตัวละครมีอยู่ การลองถ่ายทอดสิ่งที่คิดออกมา ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากครับ จะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับตัวละครเพื่อให้พวกเขาปะทะกันอย่างร้อนแรง และผมหวังว่าการปะทะกันที่ ดุเดือดนี้จะเต็ม หน้าจอ พวกประเด็นที่ต้องไม่ให้เห็นเยอะไปเราก็ต้องมานั่งคิดด้วยกัน

คุณเองก็รับบทในเรื่องนี้เหมือนกัน เรามั่นใจว่าประสบการณ์ ในฐานะนักแสดงที่ผ่านมา ของคุณมีผลกับ วิธีที่คุณกำกับนักแสดงในเรื่อง คุณมีจุดไหนที่เน้นเป็นพิเศษหรือไม่?

ที่ผ่านมาถ้าสถานการณ์ในบทมันน่าเชื่อและมีฉากที่เสริมกัน การแสดงของผมมันจะออกมาตามธรรมชาติ แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมพยายามถ่ายทอดสิ่งที่ผู้กำกับต้องการออกมามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ระหว่างขั้นเตรียมงานและการซ้อมบท มันมีบางจุดที่ผมแก้ไดอะล็อกตามฟีดแบ็กจากนักแสดง ขณะที่บางครั้งผมต้องกล่อมให้พวกเขายอมเล่นบางซีนที่พวกเขารู้สึกไม่สบายใจบ้างเหมือนกัน

HUNT ที่แตกต่างกับภาพยนตร์สายลับอื่น ๆ อย่างไร?

ผมมองว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อให้อุดมการณ์ของเขา กลายมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าเล่าเรื่องเกาหลีเหนือและใต้ เวลาดูหนังสายลับ จะมีคดีหรือสถานการณ์ที่แต่ละตัวละครเผชิญอยู่ ทำให้รู้สึกลุ้นระทึกมาก พวกเราเองก็คิดมาเยอะมากว่าจะทำสายลับในแบบเกาหลียังไงให้ต่างจากหนังสายลับอื่น ๆ นั้น ปกติหนังสายลับส่วนใหญ่ จะเป็นการทิ้งปริศนาให้ผู้ชมได้ปะติดปะต่อเรื่องเอา แต่ผมเขียนบทออกมา เพราะต้องการสร้างภาพยนตร์ที่มีความเข้มข้น โดยมีการพลิกกลับทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็กและคลี่คลายอย่าง ผมพยายามไม่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนเกินกว่าจะติดตามได้และแค่หวังว่าผู้ชมจะเพลิดเพลินกับมัน

ในเรื่อง HUNT ต้องรับหน้าที่ทั้งเขียนบท กำกับ ไปจนถึงนักแสดงคนเดียว สามตำแหน่งคงจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย?

ความจริงแล้วผมซื้อลิขสิทธิ์ของเนื้อเรื่องมา ตั้งใจจะเป็นแค่ผู้จัดอย่างเดียว แต่การมานั่งรอทุกวันเป็นเรื่องยากครับ รู้สึกอึดอัดและเสียดายกับเวลาที่ผ่านไป ก็เลยเริ่มเขียนบทด้วยตัวเองครับ แล้วพอเขียนมาตลอดสี่ปี การเรียบเรียงสิ่ง ที่เขียนการทำโปรเจกต์ในแต่ละหัวข้อ การสร้างคาแรกเตอร์ให้กลมกล่อม ผมได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างที่บอกว่าน่า จะลองมากำกับเองดู จนสุดท้ายก็ได้มากำกับด้วยครับ

บรรยากาศในกองถ่ายที่ได้มีนักแสดง จองอูซอง ที่เป็นเพื่อนสนิท เป็นยังไงบ้าง?

เราคุยกันเยอะมากเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ หลังจากเคยร่วมงานกันใน City of the Rising Sun (เมื่อปี 1999) เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราพยายามทำให้มันเป็นไปได้และแม้แต่เขียนบทด้วยกัน ณ จุดหนึ่ง แต่มันก็ไม่เคยปรากฏเป็นภาพยนตร์เลย จนมาถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกกระตือรือร้นมากที่จะมีเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ อยากให้คนพูดว่า จองอูซอง ดูดีที่สุดบนหน้าจอเมื่อเขาถูกยิงโดย อีจองแจ ในกองถ่ายก็ยุ่งกับการดูแลกันและกันครับ สำหรับผมที่ต้องตั้งใจกำกับให้จองโดออกมาเท่มากที่สุดตรงกันข้ามกับคุณอูซองนั้นที่เห็นว่ายิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งหมดแรงคงคิดว่า “เพื่อนฉันอาจจะตายไปแบบนี้ก็ได้” ก็คอยจัดวิตามินให้ผมกิน สำหรับตอนนี้แค่อยู่ข้างๆกันก็รู้สึกอุ่นใจแล้ว ถึงวันไหนไม่มีคิวถ่าย แค่มาอยู่ข้างๆ ก็เป็นกำลังใจมากที่สุดแล้วครับ 

คุณได้การปรึกษาด้านใดเป็นพิเศษเกี่ยวกับการถ่ายทอดภาพในหัวของคุณออกมาในภาพยนตร์บ้าง?

ผมอยากลองอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี, องค์ประกอบภาพ, แม้แต่สถานที่ถ่ายทำ ทีมกล้องต้องเจออุปสรรคมากมายระหว่างการถ่ายทำ ผมว่าพวกเขาเจอหนักสุดแล้วล่ะ รวมถึงทีมสตั้นต์ เพราะผมต้องการให้ฉากแอ็กชันในเรื่องทุกฉากดูทรงพลังและสมจริง ผมอยากผลักมันไปจนสุดขอบ แต่ยังเก็บรายละเอียดไว้ครบถ้วน

คุณสร้างเกาหลีใต้ยุค 80 ในเรื่องออกมาได้อย่างไร?

ปัญหาใหญ่เลยคือมันไม่มีโลเกชันไหนที่ให้บรรยากาศแบบยุค 80 ชนิดที่ครบจบในที่เดียว แถมงบเราก็ไม่ได้มากพอที่จะเนรมิตขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมด แต่ทีมงานของเราทำได้ดีมาก พวกเขาเอาชนะอุปสรรคและหาจุดที่ลงตัวพบ โดยเฉพาะกับฉากที่เราจำลองวอชิงตัน, โตเกียว และประเทศไทย เราถ่ายทั้งหมดในเกาหลี แม้ว่าขั้นเตรียมงานแทบจะเรียกได้ว่ารากเลือด แต่ผลที่ออกมาทำให้พวกเราลืมความลำบากในตอนนั้นไปปลิดทิ้ง

คอนเซ็ปต์เบื้องหลังฉากต่อสู้ที่เป็นไฮไลต์ของภาพยนตร์ Hunt?

ความเดือด ความสมจริง และรายละเอียด คือสามสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมทำสตอรี่บอร์ดกับแผนกเทคนิกพิเศษ, ทีมสตันต์และทีมซีจี แน่นอนว่ามันไม่ใช่งานง่าย แต่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เราถ่ายทำกันได้ราบรื่น ผมอยากให้มันมีขับรถไล่ล่า วิ่งไล่กันตามถนน, การระเบิดและการสาดกระสุนกันเหมือนกำลังอยู่ในสนามรบ ผมยังต้องการให้ทั้งหมดนั่นออกมาดูสดใหม่ ซึ่งทีมงานทุกคนไม่ทำให้ผมผิดหวัง

เราได้ยินว่าคุณเปลี่ยนเทคนิคระเบิดในเรื่องนี้ให้ใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ คุณมีเหตุผลใดเป็นพิเศษไหม?

ผมเป็นนักแสดงมานาน ผมเข้าใจหัวอกพวกเขาดี ผมให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และสุขภาพของทีมงานทุกคน เราเลยเลือกใช้ข้าวสาลีป่นแทนส่วนผสมที่เป็นเคมี

 อยากจะพูดอะไรกับผู้ชมที่จะได้พบกับ HUNT ในโรงภาพยนตร์

แน่นอนว่าฉากแอ็กชันตระการตาเป็นส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้ แต่ผมอยากให้แน่ใจว่าผู้ชมจะอินไปกับเนื้อเรื่อง อึ้งไปกับทุกจุดหักมุม และเอาใจช่วยสองตัวละครนำ ถึงพวกเราจะบอกว่าเป็นหนังประเภทสายลับก็จริงแต่เนื้อหาไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น อาจจะคิดว่าขั้นตอนการสืบสวนหาคนร้ายไม่ได้ซับซ้อน แต่ความจริงแล้วเราได้อธิบายไว้ให้เข้าใจแบบ ง่าย ๆ ต่างหาก เข้าไปดูแบบสบาย ๆ ได้เลยครับ แต่ว่าเรื่องอาจจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก แค่สนุกไปกับความเร็วพวกนั้นก็พอครับ

พบกับผลงานเรื่องล่าสุดของนักแสดงชื่อดังระดับโลก อีจองแจ กับความทุ่มเททั้งกำกับ เขียนบท และแสดงนำในภาพยนตร์แอ็กชัน-สายลับสุดเดือดแห่งปี Hunt ล่าคนปลอมคน” ภาพยนตร์เกาหลีที่โด่งดังทั่วโลก และได้รับกระแสการตอบรับอย่างล้นหลามจนถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 140 ประเทศ

สำหรับประเทศไทย เตรียมมันส์ ระห่ำพร้อมกัน 1 กันยายน นี้ ในโรงภาพยนตร์