11 ปีแห่งการรับใช้ทีมชาติของนักกีฬาเทควันโด อีแดฮุน ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้ว
อีแดฮุน ซุปตาร์นักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้ ประกาศอำลาทีมชาติอย่างกะทันหัน
ในการแข่งขันกีฬาเทควันโดระดับประเทศ นักกีฬา อีแดฮุน ที่เริ่มเล่นให้กับทีมชาติตั้งแต่ปี 2010 กวาดเหรียญทองมาหมดแล้วทุกเวที แต่…..
“สิ่งเดียวที่ผมทำไม่สำเร็จก็คือ การคว้าเหรียญทองโอลิมปิก”
โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นฝันร้ายและเวทีสุดท้ายของซุปตาร์นักกีฬาเทควันโดวัย 29 ปีคนนี้
อีแดฮุน (Lee Dae Hoon | 이대훈) นักกีฬาเทควันโดทีมชาติเกาหลีใต้ ประกาศอำลาอาชีพนักกีฬาทีมชาติของเขาด้วยความเศร้าจากผลงานสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่จบด้วยการพลาดไม่ได้รับรางวัลใดๆ
“ผมเคยจินตนาการถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งสุดท้าย แต่กลับต้องเล่นภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย”
ทำไมเขาจึงกล่าวเช่นนี้?
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2021 ในกีฬา 2020 Tokyo Olympics มีการจัดแข่งขันชิงเหรียญทองแดงในกีฬาเทควันโดชาย รุ่นน้ำหนัก 68 กิโลกรัม ระหว่างนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้กับจีน ที่สนามกีฬา Makuhari Messe Hall ในเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า อีแดฮุน พ่ายแพ้ให้กับ Zhao Shuai ไป 15-17 เรียกว่าฉิวเฉียดแบบบีบหัวใจเหลือเกิน
จริงๆ แล้ว อีแดฮุน น่าจะเข้ารอบชิงชนะเลิศเหรียญทองด้วยซ้ำ ถ้าไม่เกิดดราม่าที่สำคัญในรอบรองชนะเลิศ เมื่อ อีแดฮุน ทำการแข่งขันกับ Ulgbeck Rashitov นักกีฬาวัย 19 ปีจากประเทศอุซเบกิสถาน
ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุห่างกันถึง 10 ปี ซึ่ง Rashitov นั้นมีความสดใหม่ แต่อีแดฮุนก็ได้เปรียบตรงที่มีประสบการณ์โชกโชน และก็ดูเหมือนจะไร้ปัญหา เมื่อในยกแรกเขาทำคะแนนนำคู่ต่อสู้ไปก่อนถึง 12-3
ขึ้นยกที่ 2 อีแดฮุน ที่มีทักษะการใช้เท้าอย่างยอดเยี่ยมก็ยังคงต่อสู้อย่างไม่ลดละ และคู่ต่อสู้ก็ไม่ยอมแพ้ และทำแต้มไล่กลับมาได้เป็น 16-11 ก่อนจะจบยก 2 เพียง 10 วินาที อีแดฮุนก็เตะเข้าที่ลำตัวของคู่ต่อสู้เก็บเพิ่มอีก 2 แต้ม และจบยก 2 ด้วยคะแนน 18-15 ด้วยความสะบักสะบอมของคู่ต่อสู้
เมื่อเริ่มยกที่ 3 ซึ่งเป็นยกสุดท้าย นักกีฬาจากอุซเบกิสถานแทบจะขึ้นเวทีไม่ไหว เจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอนของเขาก็ยื้อเวลาตัดสินใจไปมากกว่า 3 นาที จนนักกีฬาสามารถฟื้นความแข็งแกร่งและกลับมาเริ่มต่อสู้กันต่อในยกที่ 3
และเกมก็พลิกใน 22 วินาทีสุดท้าย คู่ต่อสู้สามารถโจมตีที่ศีรษะของอีแดฮุนสำเร็จ พลิกทำแต้มตามมาเป็น 19-18 และจบยก 3 ด้วยคะแนนเท่ากัน 19-19 นั่นทำให้ต้องมีการตัดสินในยกที่ 4 และนักกีฬาอุซเบกิสถานก็สามารถพลิกกลับมาเอาชนะนักกีฬามากประสบการณ์อย่างอีแดฮุนด้วยคะแนน Golden Point ใน 17 วินาทีสุดท้ายด้วยลูกเตะเท้าซ้ายเข้าที่ลำตัว จบลงด้วยคะแนน 19-21 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเหรียญทองไปแบบช็อคสายตาผู้ชมชาวเกาหลีใต้
นั่นส่งให้ อีแดฮุน ที่ใฝ่ฝันถึงเหรียญทองโอลิมปิกมาตลอดชีวิตที่เป็นตัวแทนทีมชาติต้องฝันสลาย และยังพลาดท่าให้กับนักกีฬาจีนในนัดชิงเหรียญทองแดงรอบสุดท้าย ส่งให้เขาประกาศอำลาทีมชาติทันทีหลังจบการแข่งขัน
คำสัมภาษณ์ของเขานั้นน่าสนใจไม่น้อย โดยเขาเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่า “ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ผมได้รับเลือกให้ติดทีมชาติในกีฬาเอเชียนเกมส์ มันเป็นความทรงจำที่ค่อนข้างเลือนลางไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมจำได้ชัดเจนก็คือ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดในชีวิตของผมในฐานะนักกีฬาครับ” และเขายังพูดถึงการแข่งขันที่เพิ่งจบลงไปว่า “แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวนี้ก็จะถูกจดจำว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นของผมครับ”
เมื่อพูดถึงเหตุผลในการตัดสินใจอำลาทีมชาติในฐานะนักกีฬา อีแดฮุนได้ให้คำตอบว่า
“ถ้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมมีความตั้งใจจะเกษียณหลังจากเล่นในเทศกาลกีฬาแห่งชาติ แต่เมื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถูกเลื่อนออกไป 1 ปี ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจเกษียณทันทีหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครับ”
นั่นแสดงว่าจริงๆ แล้วเขาตั้งใจจะเกษียณอยู่แล้ว และยังบอกว่ารู้สึกกดดันมากเพราะรู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต
นอกจากนี้เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกไม่ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลา 1 ปี ผมคิดว่าผลลัพธ์น่าจะดีกว่าการเล่นในตอนนี้” เขากล่าว “แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้แล้ว”
เส้นทางก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นสตาร์นักกีฬาเทควันโดของ อีแดฮุน
อีแดฮุน เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1992 เราขอพาย้อนกลับไปดูก้าวแรกของการก้าวเข้าสู่การเล่นกีฬาของ อีแดฮุน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบจากการเข้าเรียนเทควันโด้โดยได้รับอิทธิพลจากพ่อของเขาที่เปิดโรงเรียนสอนเทควันโด จนเมื่อถึงมัธยมปลาย เขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติชุดจูเนียร์ และกลายเป็นที่รู้จักจากการเปิดตัวที่สุดยอดในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 2010 ที่กวางโจว ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันเทควันโดในรุ่นน้ำหนัก 63 กก. และเป็นนักเรียนมัธยมปลายเพียงคนเดียวที่สามารถคว้าเหรียญทองมาให้กับประเทศเกาหลีใต้ได้สำเร็จจากการลงเล่นให้ทีมชาติเป็นครั้งแรก ฝ่าด่านความเครียด ความประหม่า เชื่อฟังโค้ชจนทำได้สำเร็จในที่สุด
นั่นส่งให้ อีแดฮุน กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทันที ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลา รอยยิ้มอันมีเสน่ห์ส่งให้เขากลายเป็นสตาร์และเป็นที่จับตามองในแวดวงกีฬาเกาหลีใต้ทันที
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ทำหน้าที่นักกีฬาเทควันโดทีมชาติเกาหลีได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดระยะเวลาเกือบ 11 ปี โดยเขาสามารถกวาดเหรียญทอง 3 ครั้งติดต่อกันในกีฬา Asian Games ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปีตั้งแต่ 2010 Guangzhou Asian Games ต่อด้วย 2014 Incheon Asian Games และปิดท้ายที่ 2018 Jakarta-Palembang
ถ้านับเฉพาะการแข่งขันระหว่างประเทศเพียงอย่างเดียว อีแดฮุน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการได้รับรางวัลเหรียญทองมาแล้วทั้งสิ้นถึง 21 เหรียญ และสำหรับกีฬาโอลิมปิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ เขาก็เคยได้รับรางวัลมาแล้ว 2 ครั้ง โดยเป็นเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอน เมื่อปี 2012 และเป็นเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ริโอเดอจาเนโร เมื่อปี 2016 หลังจากได้รับทั้งเหรียญทองแดงและเหรียญเงินมาแล้ว ดังนั้น ความฝันสูงสุดของเขาจึงเหลือเพียงแค่เหรียญทองเท่านั้น ที่หวังจะคว้าให้ได้ในกีฬาโอลิมปิกโตเกียว ปี 2020 นี้ แต่ทว่า…มันก็ไม่ได้เกิดขึ้น
จนในที่สุดก็มีคำถามถึงการแข่งขันครั้งต่อไป นั่นคือ Paris Olympics ที่จะจัดขึ้นในปี 2024 โดยอีแดฮุนจะมีอายุครบ 32 ปี ซึ่งถือเป็นอายุที่ไม่น้อย แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองอีกครั้งหนึ่งไหม?
ซึ่งอีแดฮุนส่ายหัวแทนคำตอบและกล่าวว่า “สิ่งเดียวที่ผมทำไม่ได้คือเหรียญทองโอลิมปิก ผมคิดว่ามันคงมากเกินไปที่จะรอจนถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไป ถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลกและเอเชียนเกมส์จะไม่มีความหมายสำหรับผมแล้ว ‘แต่ก็ควรมีโอกาสสำหรับรุ่นน้องเช่นกัน’”
อีแดฮุน ซึ่งอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกมาเป็นเวลานาน ยังได้เปิดเผยความคิดของเขาเกี่ยวกับอนาคตของเทควันโดกีฬาที่เขารักที่สุดในชีวิตนี้ด้วยว่า “โดยส่วนตัวแล้วผมต้องการให้กฎกติกาของเทควันโดเปลี่ยนไป” เขากล่าว “ในอดีตมีการต่อสู้ด้วยจังหวะเวลาและวิธีการโจมตีที่แตกต่างกันมากมาย แต่ตอนนี้กลับเป็นการโจมตีเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียแต้ม ถ้าคุณดูการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะเห็นว่ารูปแบบจะคล้ายๆ กันทั้งหมด ผมหวังว่าจะมีการแข่งขันที่ดุดันและโต้กลับที่มากขึ้นกว่านี้ ถ้าหากมีการแก้ไขปรับปรุง เทควันโดก็จะสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก ผมอยากให้เทควันโดพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้นครับ”
สำหรับอนาคตต่อไปที่อีแดฮุนวางแผนไว้ เขากล่าวว่า “ผมต้องการไปในที่ที่สามารถสร้างความรู้ในด้านการฝึกอบรมและพัฒนาผู้เล่นที่ดีได้ ดังนั้น ผมจึงต้้งใจจะเรียนต่อครับ”
ความผิดหวังในครั้งนี้ของอีแดฮุน มีภรรยาและครอบครัวรอคอยการปลอบใจเขาอยู่ โดยภรรยาของเขาได้ให้กำลังใจผ่าน Instagram ส่วนตัวของเธอว่า “ในฐานะครอบครัวและในฐานะภรรยา ฉันยิ่งเจ็บปวดที่รู้ว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้สิ้นหวังเพียงใด แต่ฉันจะไม่ลืมวันที่เขาส่องแสงมากกว่าใคร”
นอกจากครอบครัวแล้ว แฟนๆ เทควันโดชาวเกาหลีใต้ของเขาต่างก็แสดงความเห็นใจ รวมถึงความห่วงใยถึงเขากันมากมายในชุมชนออนไลน์
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวในคร้ังนี้ ถือเป็นความล้มเหลวของสมาคมกีฬาเทควันโดเกาหลีใต้เจ้าของต้นฉบับกีฬาชนิดนี้ เมื่อส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 6 คน ซึ่งแข่งจบไปแล้ว 4 คนและคว้าเหรียญทองแดงมาได้เพียงเหรียญเดียวในรุ่น 58 กก. ชาย
ถึงจะเป็นเรื่องเศร้า แต่เขาก็ทำดีที่สุดแล้ว KZabs ขอให้ก้าวเดินต่อไปในอนาคตข้างหน้าของเขานับจากนี้มีแต่ความสำเร็จอย่างที่เขาตั้งใจไว้
อ่านต่อ
- [เรื่องย่อซีรีส์] Racket Boys คิมซังคยอง ทังจุนซัง โอนารา นำแสดง ช่อง SBS
- Hot Stove League แรงสุดฉุดไม่อยู่ ได้เรตติ้ง 17% แล้ว ถึงเวลาทวงสัญญานัมกุงมิน
ติดตาม Content เนื้อหาดีๆ จาก KZabs ได้ 4 ช่องทาง
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปเผยแพร่ แต่สามารถแชร์ไปได้เลยค่ะ
เว็บไซต์อ้างอิง
https://www.hankyung.com/sports/article/2021072674477
https://sports.news.nate.com/view/20210726n01966
https://sports.news.nate.com/view/20210725n23768
https://sports.news.nate.com/view/20210725n23760
https://sports.news.nate.com/view/20210726n04885
http://m.sports.khan.co.kr/view.html?artid=202107251757003&code=530601
https://sports.news.nate.com/view/20210725n23499
https://www.seoul.co.kr/news/newsView.php?id=20210725500110