บทสัมภาษณ์ ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู ยูแฮจิน และผู้กำกับ โจซองฮี ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ Space Sweepers [Netflix]

ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 Netflix ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “Space Sweepers” หรือในชื่อภาษาไทย “ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล” สุดอลังการในแบบปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งในงานนี้ได้มีการเชิญ ผู้กำกับโจซองฮี รวมถึง 4 นักแสดงนำ อาทิ ซงจุงกิ คิมแทรี ชินซอนกยู และ ยูแฮจิน ร่วมงานและให้สัมภาษณ์คำถามที่สื่อมวลชนส่งเข้าไป

บรรยากาศเริ่มต้นในงานแถลงข่าว สามารถดูได้จาก ลิงค์นี้

ก่อนที่จะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เรามาอุ่นเครื่องกันกับคำถามที่สื่อมวลชนถามภายในงานแถลงข่าวเจาะลึกกันเพื่ออรรถรสในการรับชมภาพยนตร์

คำถามจากสื่อมวลชนที่ถาม 4 นักแสดงนำและผู้กำกับ 

Q: Space Sweepers เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของเกาหลี และชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตั้งเป็นภาษาเกาหลีก่อน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ซงจุงกิ: ผมไม่อยากรู้สึกกดดันว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเกาหลี ตอนผมอ่านบทครั้งแรกรู้สึกว่าได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่ได้ดูภาพยนตร์แนวผจญภัยในตอนเด็กๆซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยเช่นกัน โดยมีเรื่องราวเกิดขึ้นนอกอวกาศ รู้สึกถึงความตื่นเต้นของการเริ่มต้นผจญภัยครั้บ

คิมแทรี: เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เราคุ้นเคย ฉันมักจะคิดเสมอว่าภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของเกาหลีที่สร้างโดยคนเกาหลีจะเป็นยังไง หลังจากแสดงเรื่องนี้ฉันคิดว่าเรื่องนี้มีความเป็นเกาหลีมากค่ะ ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นผลงานที่พวกเราตั้งใจทุ่มเททำงาน และถ้าฉันเป็นผู้ชม ฉันก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ

ชินซอนกยู: ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกราวกับว่าผมเล่นภาพยนตร์เพื่อชาติเลยครับ

ยูแฮจิน: ผมคิดว่าเราทำผลงานออกมาได้ดี สำหรับผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมและผมภูมิใจกับมันมาก ผู้กำกับทุ่มเทและตั้งใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ

Q: ภาพยนตร์เรื่องแรกของเกาหลีนี้มีความยากในการถ่ายทำหรือแตกต่างจากผลงานก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง?


ผู้กำกับโจซองฮี: ขั้นตอนก่อนถ่ายทำในเรื่องนี้ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับผลงานก่อนหน้านี้ เราต้องเตรียมตัวหลายอย่างและตอนถ่ายทำเวลาอยู่ในกองถ่าย เราต้องใช้จินตนาการเยอะมาก เรื่องนี้เป็นผลงานที่มีความท้าทายและผมรู้สึกตื่นเต้นว่าผลงานที่เสร็จเรียบร้อยจะออกมาเป็นยังไงครับ

Q: ในฐานะที่เป็นภาพยนตร์เนื้อหาเกาหลี ความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่คุณต้องการจะสื่อคืออะไร?

ผู้กำกับโจซองฮี: ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างเป็นภาษาเกาหลี ผมต้องการจะสร้างในรูปแบบที่ผู้ชมคุ้นเคยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

Q: ความท้าทายในการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง?

คิมแทรี: มีแน่นอนค่ะ ตามที่ผู้กำกับได้พูดก่อนหน้านี้คือพวกเราต้องใช้จินตนาการในการแสดงค่อนข้างมาก พวกเราจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและถามผู้กำกับตลอดว่าอยากให้แสดงออกมาเป็นยังไงค่ะ

ชินซอนกยู: ตอนแรกค่อนข้างยาก ตอนถ่ายทำผมมักจะคิดว่าผมควรต้องมองตรงไหน ผมจะถามผู้กำกับและผู้กำกับก็บอกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยแต่พอถ่ายทำไปเรื่อยๆผมก็เริ่มมองเห็นภาพอวกาศว่าจะออกมาเป็นยังไงบนหน้าจอครับ

ซงจุงกิ: ผมคิดว่าการถ่ายทำไม่ได้ยากมากสำหรับผม เพราะทีมงานได้เตรียมตัวในขั้นตอนต่างๆเป็นอย่างดี มันจึงไม่ยากที่จะจินตนาการฉากและเอฟเฟกต์ต่างๆ ผมคิดว่าฉากแรกที่ผมขับขึ้นไปบนอวกาศค่อนข้างท้าทาย ฉากที่ทุกคนอยู่ออกนอกยานอวกาศค่อนข้างยาก เพราะข้างนอกมีแรงโน้มถ่วง รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ที่ค่อนข้างท้าทายมากครับ

ยูแฮจิน: ตอนแรกค่อนข้างท้าทาย ต้องปรับตัวและถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกมากครับ

Q: ทำไมคุณถึงเลือกนักแสดงทั้ง 4 ท่านนี้เป็นนักแสดงนำในเรื่องนี้? [คำถามจาก KZabs]

ผู้กำกับโจซองฮี: ผมอยากจะบอกว่า ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา ผมคิดว่าผู้กำกับทุกคนในเกาหลีอยากร่วมงานกับพวกเขา เหตุผลที่ผมได้รับโอกาสนี้ก็เพราะว่านักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เลือกที่จะมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับทุกคนครับ

Q: คำถามสำหรับ ซงจุงกิ และ ผู้กำกับโจซองฮี หลังจากเรื่อง The Werewolf Boy เมื่อหลายปีมาแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรกับการได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง?

ซงจุงกิ: ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรใหม่หรือแตกต่างไปจากเดิม ทุกวันนี้หลายๆ คนก็ยังถามถึงบทที่ผมเคยได้รับเมื่อตอนเล่น The Werewolf Boy อยู่เลย ผมว่าเพราะนั่นเป็นตัวละครที่มีชีวิตอยู่ในใจของผู้ชม และผมคิดว่าผู้กำกับก็เป็นแบบนั้นสำหรับผมเหมือนกัน ถึงจะผ่านมาเป็น 10 ปี แต่เขาอยู่เคียงข้างผมมาตลอด ผมคิดว่านั่นคือความสัมพันธ์ที่เรามี ผู้กำกับโจก็ยังเป็นคนเดิม เป็นคนเงียบๆ เหมือนเดิม แต่ก็ยังสนุกกับการทำงานอยู่เสมอ ผมรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากวันเก่าๆ เลยครับ

ผู้กำกับโจซองฮี: ซงจุงกิก็ยังเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนครับ เป็นคนเฟรนด์ลี่ มีความเป็นผู้นำเมื่อเวลาเข้าฉาก บางทีผมก็ทำพลาดบ้าง แต่เขาก็มีความเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี ผมต้องพึ่งพาเขาในหลายๆ เรื่องเลยครับ ผมมอบความไว้วางใจให้เขาเต็มที่ และรู้สึกอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ด้วยครับ

Q: จากในเรื่อง กัปตันจางมีอายุน้อยกว่าคนอื่นๆ และเธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามเธอยังคงประสบความสำเร็จในการควบคุมยานอวกาศ และควบคุมทุกคนรอบๆตัว คุณตีความคาแรกเตอร์ตัวละครกัปตันจางอย่างไร และคุณโฟกัสอะไรในการแสดงของคุณ?

คิมแทรี: ทีแรกฉันรู้สึกว่า คาแรกเตอร์ของกัปตัน มักจะต้องเป็นคนตัวใหญ่ มีไหล่กว้าง และต้องมีเสน่ห์มากด้วย พอได้มาพูดคุยกับผู้กำกับแล้ว ส่วนหนึ่งฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นสไตล์ของผู้กำกับโจ ที่อยากจะเปลี่ยนภาพจำแบบเดิมๆ และฉันคิดว่ามันมีพลังและน่าสนใจมากค่ะ และเมื่อคุณดูเสื้อยืดที่กัปตันจางสวมใส่ในเรื่อง มันจะมีดีเทลที่น่ารักอยู่ค่ะ ทั้งสีสัน และลายเส้นที่น่ารักมาก นั่นคือตัวละครที่ฉันคิดว่ากัปตันจางเป็น ซึ่งผู้กำกับโจทำให้ตัวละครเป็นรูปธรรมมากที่สุด และเป็นตัวละครแรกที่ผู้กำกับโจทำงานด้วยค่ะ สำหรับฉัน กัปตันจางเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก เธอใช้ชีวิตเหมือนโจรสลัด แต่เธอมีสิ่งสำคัญที่เธอยึดเหนี่ยวไว้ และคุณจะรู้ว่าฉันพูดถึงอะไรเมื่อคุณดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเธอได้รับแรงผลักดันจากสิ่งที่อยู่ในใจของเธอค่ะ

Q: คำถามสำหรับ ชินซอนกยู คุณเล่นเป็นคนที่มีหัวใจที่อบอุ่นมากและฉันคิดว่าตัวละครนี้เหมาะกับคุณอย่างที่สุด ร่างกายของคุณก็ดูฟิตและเท่มากด้วย คุณพอใจกับร่างกายของคุณมากแค่ไหน?

ชินซอนกยู: ผมว่าผมพอใจถึง 120% กับสิ่งที่ปรากฏบนจอนะครับ ตอนถ่ายทำผมพยายามทำให้ร่างกายของผมดูใหญ่โตขึ้นกว่าปกติ แล้วเมื่อผมเห็นตัวเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ มันดูเท่กว่าที่ผมคาดไว้อีก ผมพอใจมากเลยครับ

Q: คำถามสำหรับ ยูแฮจิน คุณตีความคาแรกเตอร์ Bubs นี้อย่างไร และการแสดงกับเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ หรือ เทคโนโลยีการจับการเคลื่อนไหวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในฮอลลีวูด มีปัญหาอะไรไหม? คุณเคยดูภาพยนตร์หรือตัวละครจากต่างประเทศเพื่อใช้อ้างอิงหรือไม่?

ยูแฮจิน: สำหรับคาแรกเตอร์ Bubs นี้ ผมไม่ได้อ้างอิงกับตัวละครจากเรื่องอื่นเลยครับ ผมคิดว่า Bubs เป็นหุ่นยนต์ที่ทำจากโลหะ แต่มันมีหัวใจที่อบอุ่น นั่นคือวิธีที่ผมตีความ Bubs ให้เป็น ส่วนในด้านอื่นๆ ผมก็พยายามอย่างเต็มที่เหมือนที่ทำมาตลอด และผมคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำงานเสมอ ทีมงานทุกคนก็ช่วยซัพพอร์ตผมในทุกขั้นตอนเป็นอย่างดีครับ

Q: คำถามสำหรับ ซงจุงกิ ในฐานะตัวละครที่ช่วยให้เนื้อเรื่องดำเนินไปข้างหน้า แต่ก็ต้องไม่มากเกินจนกลบตัวละครอื่น คุณทำความเข้าใจกับบทของแทโฮได้อย่างไร?

ซงจุงกิ: ตอนที่ผมอ่านบทครั้งแรก และพยายามตีความบทแทโฮ ผมนึกถึงคำว่าเศร้าโศกสิ้นหวัง เพราะเขาหมดหวังในชีวิต เขายอมแพ้ในทุกสิ่ง ในเรื่องนี้แทโฮต้องประสบกับหตุการณ์หนักๆ หลายอย่าง แต่เขาก็ยังสามารถเรียกสติกลับมาได้ และได้มาพบกับเหล่าลูกเรือคนอื่นๆของยาน Victory ผมอยากจะเรียกพวกเขาว่าเป็นพวกนอกคอก แต่พอรวมกันแล้วกลายเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม เกิดเป็นความหวังแวบหนึ่ง และเขาก็เริ่มมีความกระตือรือร้นในชีวิตอีกครั้ง ผมคิดว่าเหล่าสมาชิกของยาน Victory มีส่วนช่วยให้แทโฮกลับมายืนได้อีกครั้ง ดังนั้น ผมจึงพยายามถ่ายทอดความแตกต่างนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

Q: สำหรับผู้กำกับโจซองฮี ดูเหมือนคุณจะมีความสามารถในการคัดเลือกนักแสดงเด็กที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา คุณมีวิธีการคัดเลือกนักแสดงเด็กอย่างไร และคุณบอกเด็ก ๆ เกี่ยวกับการแสดงของพวกเขาอย่างไร?

ผู้กำกับโจซองฮี: โดยธรรมชาติแล้ว เด็กจะไม่ทำตามที่คุณบอกหรอก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ ฝึกฝนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่วงหน้า เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกสบายใจ และจะง่ายขึ้นสำหรับคนทำงาน ผมคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำงานกับนักแสดงเด็ก คือ ผู้ใหญ่จะต้องมีความเข้าใจ และมีน้ำใจต่อพวกเขา ผมคิดว่าเหล่าลูกเรือของยาน Victory ของเราทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในเรื่องนี้ (ยิ้ม) พวกเขารักเด็ก มีความเข้าอกเข้าใจนักแสดงเด็กมาก และสิ่งนี้ช่วยได้มากในการถ่ายทำครับ

Q: สำหรับผู้กำกับโจซองฮี ไม่เพียงแต่ยานอวกาศ Victory เท่านั้น แต่รวมถึงงานในอวกาศทั้งหมด และเมือง UTS คุณสร้างสรรค์งานออกมาได้อย่างพิถีพิถันและอลังการมาก ฉันคิดว่าฉากไล่ล่าและฉากต่อสู้ใกล้เคียงกับมหากาพย์สตาร์วอร์สเลยทีเดียว และคุณภาพนั้นน่าประทับใจมาก คุณใช้ CGI ที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะหรือไม่?

ผู้กำกับโจซองฮี: ทีมงานของเราใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้มีคุณภาพและน่าประทับใจครับ พวกเราพยายามทำให้ภาพออกมาดูสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนอกจากนี้พวกเราพยายามนึกถึงภาพความเร็วที่แท้จริงของยานอวกาศที่กำลังเดินทางไปนอกอวกาศ สิ่งที่เราเน้นมากที่สุดคือการใช้เทคนิคต่างๆให้มีความสมดุลครับ

Q: ในตอนแรกภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แต่เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 จึงเปลี่ยนมาออกอากาศพร้อมกันทั่วโลกทาง Netflix แทน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง รู้สึกเสียใจบ้างมั้ย?

ซงจุงกิ: สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับผู้ชม พวกเราอยากให้ผู้ชมได้ชมผลงานของพวกเราให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ อีกไม่กี่วันทุกคนก็จะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ผมหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบครับ

คิมแทรี: แน่นอน ฉันรู้สึกเสียใจนิดหน่อยค่ะ เพราะหลายคนคงอยากชมเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ แต่ฉันก็รู้สึกดีใจที่เรื่องนี้จะเข้าฉายใน Netflix ตอนทุกคนดูเรื่องนี้ ฉันแนะนำให้เปิดเสียงดังเพื่อจะได้รับอรรถรสที่เพิ่มขึ้นในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้นะคะ

ชินซอนกยู: พวกเราจะได้ชมภาพยนตร์พร้อมกันทั่วโลกผ่านทาง Netflix ผมหวังว่าทุกคนจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในพื้นที่กว้างๆ พร้อมกับปิดไฟ เพราะมันจะสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการรับชมได้มากยิ่งขึ้นครับ

ยูแฮจิน: ผมคิดว่าเทคโนโลยีและเสียงอุปกรณ์ต่างๆทุกวันนี้ก้าวหน้ามาก และภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกของผมที่ผู้ชมทั้งหมด 190 ประเทศทั่วโลกจะได้รับชมพร้อมกัน ผมหวังว่าพวกคุณจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

ผู้กำกับโจซองฮี: ผมไม่รู้สึกเสียใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ และผมดีใจมากที่จะได้พบกับผู้ชมจาก 190 ประเทศทั่วโลก ผมอยากให้ทุกคนได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของเกาหลีเรื่องนี้ครับ

Q: สุดท้ายนี้ช่วยฝากผลงานให้กับแฟนๆที่รอติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อยค่ะ?

ผู้กำกับโจซองฮี: ภาพยนตร์ Space Sweepers จะออกอากาศให้รับชมเป็นวันแรกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นี้แล้วนะครับ ผมหวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุกและความบันเทิงจากเรื่องนี้ เพื่อผ่อนคลายในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ครับ

ยูแฮจิน: ไม่เพียงแต่นักแสดงบนเวทีนี้เท่านั้น แต่ทีมงานทุกคนต่างทุ่มเทให้กับผลงานเรื่องนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะรักและสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

ชินซอนกยู: พวกเราทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับโปรเจ็กต์นี้มาก และเรื่องนี้จะออกอากาศทั่วโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผมหวังว่าทุกคนจะมีความสุขและสนุกในการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

คิมแทรี: เป็นภาพยนตร์ที่สามารถรับชมได้ทั้งครอบครัวและขอบคุณทุกคนมากที่มาร่วมงานกับเราในวันนี้ค่ะ

ซงจุงกิ: Space Sweepers จะสามารถรับชมได้ในอีกไม่กี่วันนี้ ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นของขวัญสำหรับพวกคุณทุกคน ผมคิดว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นตลอด 2 ชั่วโมงที่รับชมนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้าครับ

ภาพยนตร์ Space Sweepers จะบอกเล่าเรื่องราวในปี 2092 เมื่อโลกกำลังจะล่มสลายจนสิ่งมีชีวิตแทบจะไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ชนชั้นสูงได้รับสิทธิพิเศษไปอาศัยอยู่ที่ UTS บริเวณระหว่างโลกและดวงจันทร์ ส่วนผู้คนที่เหลือกว่า 95% ก็ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บนโลกมนุษย์ที่กลายเป็นซากปรักหักพัง

Victory เป็นหนึ่งในยานอวกาศของเกาหลี ที่คอยเก็บกวาดขยะอวกาศไม่ว่าจะเป็นยานอวกาศร้าง ขยะดาวเทียม ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างยานเก็บขยะทั่วโลกที่ต่างรุมทึ้งงานนี้เพื่อความอยู่รอด โดยในยาน Victory มีสมาชิก อย่าง แทโฮ (รับบทโดย ซงจุกิ) นักบินยานอวกาศอัจฉริยะ ผู้แม้ว่าจะยากจนแต่ก็เต็มไปด้วยความสามารถ, กัปตันจาง (รับบทโดยคิมแทรี) อดีตสลัดอวกาศผู้ลึกลับ, ไทเกอร์พาร์ค (รับบทโดย ชินซอนคยู) วิศวะเครื่องกลระดับเทพ และ Bubs หุ่นยนต์ทหารที่ถูกโปรแกรมใหม่

วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มาในรูปลักษณ์ของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ เป็นที่รู้กันว่าหุ่นยนต์ประเภทนี้มีอานุภาพทำลายล้างสูง แต่เพราะเจ้าหุ่นยนต์นี้เป็นที่ต้องการของคนในโลกใหม่ พวกเขาจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้เพื่อแลกกับค่าไถ่ราคางาม แม้จะต้องเอาชีวิตของตัวเองเข้าเสี่ยงก็ตาม

ติดตามรับชมภาพยนตร์ Space Sweepers 5 กุมภาพันธ์ 2021 นี้ เวลา 15.00 น.พร้อมกันทุกหน้าจอ Netflix

ขอบคุณภาพประกอบจาก Netflix 

อ่านต่อ

ติดตาม Content เนื้อหาดีๆ จาก KZabs ได้ 4 ช่องทาง

*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปเผยแพร่ แต่สามารถแชร์ไปได้เลยค่ะ