อ่านให้จบ แล้วคุณจะพบข้อคิดดีๆ ให้กับชีวิต~
เชื่อว่าหลายคนที่กดเข้ามาอ่านนี้ น่าจะต้องเคยดูซีรีส์ KAIROS ของช่อง MBC มาแล้ว หรือถ้าคุณยังไม่เคยดู แต่อยากจะรู้ความหมายของชื่อเรื่องก่อน ก็ไม่ได้แปลกอะไร แอดมินเอง ครั้งแรกที่เห็นชื่อเรื่องก็คิดอยู่เหมือนกันว่า นี่มันภาษาอะไร? แล้วแปลว่าอะไรกันนะ? แล้วยิ่งดูไป ยิ่งชอบซีรีส์เรื่องนี้มาก ทั้งในแง่ความสนุก ตื่นเต้น ที่เหนือไปกว่านั้น คือ ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ตอนจบแต่ละตอนแทบจะตะโกนสบถออกมา ลุ้นกันได้ตลอด แต่ประเด็นในบทความนี้ เราไม่ได้จะมารีวิวซีรีส์ (ที่เขียนมาก็คล้ายนะ 55) แต่อยากจะมาเฉลยความสงสัยของตัวเองและเผื่อเพื่อนๆ ที่สงสัยเหมือนกัน เริ่มต้นจากคำถามข้างล่างนี้กันก่อนเลย พร้อมแล้วตามมาค่ะ
KAIROS อ่านว่าอะไรกันแน่?
KAIROS แท้จริงแล้วมาจากภาษากรีกโบราณ Καιρός อ่านว่า “แครัส” อ่านแบบสำเนียงไทยหรือตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ก็คือ “ไครอส” ส่วนในภาษาเกาหลีนั้นก็อ่านเหมือนไทย แต่เนื่องจากภาษาเกาหลีไม่มีสระไอ และตัว S จะอ่านออกเสียงเป็น สึ เลยต้องอ่านเป็นเสียงใกล้เคียง นั่นก็คือ “คา-อี-โร-สึ” อ่านเร็วๆ ก็จะได้เป็น “ไครอส” (เหมือนชื่อ ไอยู เกาหลีจะเขียนเป็น อา-อี-ยู)
ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงตั้งชื่อเรื่องว่า KAIROS?
KAIROS มีความหมายว่า “ช่วงเวลาที่เหมาะสม” สอดคล้องกับพล็อตเรื่องที่มี “เวลา” เป็นตัวตัดสินความเป็นความตายของตัวละคร และยังมีการใส่ความแฟนตาซีเรื่องของเวลาในปัจจุบันกับอดีตย้อนไป 1 เดือน และสิ่งที่ซีรีส์ทิ้งปมไว้ให้คนดูอย่างเราๆ ได้นั่งคิด วิเคราะห์ แยกแยะ (แต่ยืนคิด นอนคิด ก็ยังไม่รู้อยู่ดี) ว่าทำไม ชินซองรก ในบท คิมซอจิน ถึงติดต่อกับ อีเซยอง ในบท ฮันแอรี ได้แค่ในเวลา 10.33 น. (22.33 น.) และมีเวลาคุยกันได้เพียง 1 นาทีเท่านั้น
KAIROS ไม่ได้มีความหมายแค่อย่างเดียว แต่ยังมีความหมายว่าอะไรอีกนะ?
นอกจาก KAIROS จะมีความหมายตามที่บอกไปแล้ว KAIROS ยังเป็นชื่อของเทพเจ้าองค์หนึ่งด้วย นั่นก็คือ เทพเจ้า KAIROS หรือ เทพเจ้าแห่งโอกาส ในตำนานโรมันเขาเป็นบุตรแห่งซุส ซึ่งมีรูปลักษณ์ตามภาพวาดที่เราไปหามานี้
ลองสังเกตพินิจพิเคราะห์ให้ดี ไล่ตั้งแต่ล่างขึ้นบน จะเห็นได้ว่า ที่เท้าของ KAIROS เทพเจ้าแห่งโอกาส จะมีปีกติดอยู่และเหยียบอยู่บนหินกลมๆ (ในบางรูปปั้น จะที่หลังจะมีปีกขนาดใหญ่อีกด้วย) ซึ่งบ่งบอกว่าท่านจะอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยามและพร้อมที่จะบินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่มือจะเป็นว่าเทพองค์นี้ถือมีดเอาไว้ เพื่อที่จะบอกว่า ข้าคมยิ่งกว่าของมีคมใดๆ พอมองไปที่ทรงผมอันเก๋ไก๋ ไฉไล ประหนึ่งนายแบบ จะเห็นได้ว่า ผมด้านหน้าจะเป็นมวยยาวๆ ยื่นออกมา แต่ทว่า ผมด้านหลังสิ กลับเป็นทรงสกินเฮดสั้นเกรียน ซึ่งมีความหมายว่า ถ้าเราเจอเทพแห่งโอกาสมายืนตรงหน้า เราจะสามารถใช้มือคว้ามวยผมด้านหน้านี้ไว้ได้สะดวกมือ แต่ถ้าปล่อยให้เทพแห่งโอกาสผ่านไปเมื่อไหร่ ครั้นจะยื่นมือไปคว้าก็จะพบกับผมที่สั้นเกรียนไม่สามารถจับท่านไว้ได้ เปรียบเหมือนเมื่อมี “โอกาส” มาอยู่ตรงหน้าเรา แล้วเราไม่คว้าเอาไว้ โอกาสนั้นก็จะหลุดลอยไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแล่บแบบเท้ากับหลังของท่านที่ติดปีกแบบเทอร์โบไว้นั่นเอง
รูปปั้นเทพเจ้า KAIROS แบบปฏิมากรรมนูนต่ำ ที่แสดงให้เห็นว่า มีปีกทั้งที่เท้าและที่หลัง
นักเขียนบทต้องการให้ KAIROS สื่อถึงสิ่งใดกันแน่?
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คงไม่ต้องบอก เพื่อนๆ ก็คงพอจะเดาได้แล้ว ทั้งความหมายที่ว่า “ช่วงเวลาที่เหมาะสม” หรือ “โอกาส” แต่เรามาดูกันชัดๆ ว่านักเขียนบทต้องการสื่ออะไรและซ่อนความหมายลึกซึ้งอะไรไว้
เรื่องราวของเวลา “เป็นเรื่องที่น่าสนใจเสมอ” สิ่งเดียวที่มนุษย์ทุกคนมีเหมือนกันหมด โดยไม่แบ่งแยกว่าจะรวยหรือจน มีอำนาจล้นพ้นฟ้า นั่นก็คือ “เวลา” ที่มีเท่ากันทุกคน และทุกคนก็มีชีวิตอยู่กับ “การเลือก” และ “การตัดสินใจ” ตลอดเวลา
ในชีวิต “ปัจจุบัน” เกิดขึ้นจากการตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ ของเราเอง แล้วเคยกันบ้างไหมที่นึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว หรือกับการตัดสินใจอะไรผิดพลาดไป แต่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป
ด้วยสมมติฐานของคำว่า “ถ้าเราสามารถย้อนเวลากลับไปได้” อาจจะเป็นเพียงจินตนาการและเป็นความหวังชั่วนิรันดร์ของมนุษย์อย่างเราๆ ก็เป็นได้
เรื่องราวใน KAIROS สร้างเรื่องราวให้ตัวละครตระหนักถึงความวิเศษของ “โอกาส” ในการ “ย้อนเวลา” กลับไปได้ เมื่อลูกสาวเพียงคนเดียวของ คิมซอจิน ถูกลักพาตัวไปและถูกฆาตกรรม หนำซ้ำภรรยาก็ช็อกและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกด้วย
เมื่อชีวิตของเขาเดินทางมาถึงเส้นทางที่กำลังพังทลายและมืดมิด จู่ๆ พระเจ้าก็มอบความมหัศจรรย์ที่เรียกว่า ‘โอกาส’ มาให้โดยผ่านทาง ฮันแอรี ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพื่อให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน และมีชีวิตที่มืดมนไม่ต่างอะไรกับซอจิน เมื่อแม่ที่กำลังอ่อนแอจากอาการป่วยโรคหัวใจหายตัวไป
ความเสี่ยง มักจะแฝงตัวอยู่ใน โอกาส และ ความจริง ก็มักจะถูกเปิดเผยใน ช่วงวิกฤต
ในช่วงวิกฤต สิ่งที่เขาหรือเธอเลือก บ่งบอกได้ถึงระดับของความสิ้นหวัง ความกล้าหาญ และความรักที่แท้จริง
เมื่อมีการเรียนรู้จาก ‘อดีต’ เราจะได้เห็นตัวละครเอกที่เติบโตขึ้น และเลือกทางเลือกที่แตกต่างกันใน ‘ปัจจุบัน’ และต่อสู้ใน ‘ปัจจุบัน’ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง ‘อนาคต’ จากโอกาสเล็กๆ น้อยๆ คุณจะตระหนักถึงความรอบคอบที่มักจะเกิดความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่
ซีรีส์เรื่อง KAIROS ไม่ได้ใช้รูปแบบ Time Slip ที่ให้ตัวละครตัวเดียวข้ามเวลาไปอีกช่วงเวลาหนึ่งได้ แต่เป็นการพยายามย้อนกลับไปแก้ไขโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว โดยตัวละครเดียวกันในปัจจุบันกับในอดีตจะแยกการสื่อสารออกจากกัน แต่เมื่อมีการแก้ไขการกระทำใดๆ ในอดีตจะส่งผลเปลี่ยนแปลงมาถึงปัจจุบันทุกครั้ง! ไม่ใช่ในรูปแบบเวลาแบบคู่ขนาน ดังนั้น KAIROS จึงสร้างความสนุก ตื่นเต้นให้กับผู้ชมแบบคาดเดาไม่ได้ ความขัดแย้ง การแก้ไขวิกฤตต่างๆ ของตัวละครที่จะพลิกกลับไปกลับมาด้วยการเล่นกับเวลา ทำให้เวลา 1 ชั่วโมงที่นั่งดูรู้สึกเหมือนผ่านไปแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น!
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ Official KAIROS)
KAIROS สอนอะไรเรา?
หวังว่า เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้จะได้รับข้อคิดดีๆ ทั้งจากเรื่องราวของซีรีส์เอง และสุดยอดความหมายที่นักเขียนบทซ่อนเอาไว้อย่างลึกซึ้ง เราจะไม่มีการตั้งคำถามว่า “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากกลับไปแก้ไขอะไร” แต่ส่วนตัวแอดมินอยากจะให้เพื่อนๆ ทุกคนตระหนักไว้ว่า
“เมื่อโอกาสมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะตัดสินใจเปิดประตูต้อนรับ ‘โอกาส’ นั้น หรือจะนั่งอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้ ‘โอกาส’ นั้นหลุดลอยไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ แล้ว ‘โอกาส’ ที่ว่าก็จะไปอยู่กับผู้อื่นที่พร้อมแทน มีเพียงคุณเท่านั้นที่ต้องตัดสินใจเลือกเอง!”
Source: (1)(2)(3)(4)(5) ทางเราแปลจากข่าวภาษาเกาหลีโดยตรง หากมีตรงไหนผิด สะกิดบอกกันได้เลยค่า
ติดตาม Content เนื้อหาดีๆ จาก KZabs ได้ 4 ช่องทาง
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปเผยแพร่ แต่สามารถแชร์ไปได้เลยค่ะ